ภาษีรถยนต์เป็นหน้าที่สำคัญของเจ้าของรถทุกคันที่ต้องไปเสียทุกปี นอกจากกฎหมายจะบังคับให้ต้องทำแล้ว การต่อภาษีรถยนต์ก็เพื่อนำเงินส่วนนั้นไปบำรุงรักษาและพัฒนาถนนหนทางต่าง ๆ เพื่อการขับขี่ที่สะดวกสบายและมีความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น ดังนั้น การต่อภาษีรถยนต์ของรถแต่ละประเภทที่มีขนาดเครื่องยนต์แตกต่างกันออกไป ทำให้ราคาต่อภาษีรถกระบะหรือค่าภาษีรถเก๋งแต่ละคันมีราคาไม่เท่ากัน เพราะการใช้งานที่แตกต่างกันออกไปนั่นเอง แล้วรถแต่ละประเภทต้องเสียภาษีเท่าไหร่บ้าง เราไปดูกันเลย
ภาษีรถยนต์คืออะไร
ภาษีรถยนต์ คือค่าธรรมเนียมที่เจ้าของรถทุกคนมีหน้าที่ต้องชำระเป็นประจำทุกปีตามที่กฎหมายกำหนด โดยเงินในส่วนนี้จะถูกนำไปใช้ในการบำรุงรักษาและพัฒนาถนนหนทาง รวมถึงระบบคมนาคมต่าง ๆ ทั่วประเทศ เมื่อชำระภาษีเรียบร้อยแล้ว เราจะได้รับป้ายสี่เหลี่ยม หรือที่เรียกกันว่า "ป้ายวงกลม" เพื่อนำมาติดไว้ที่กระจกหน้ารถ เป็นเครื่องหมายยืนยันว่ารถคันนี้ได้ชำระภาษีถูกต้องแล้ว
ถ้าขาดต่อภาษีจะเกิดอะไรขึ้น
- กรณีต่อภาษีช้าเกินกำหนด (1 วัน - 3 ปี) หากเหล่ากู๊ดดี้ต่อภาษีช้าเกินกำหนด แม้เพียง 1 วัน จะต้องเสียค่าปรับในอัตราร้อยละ 1 ต่อเดือน ยิ่งชำระช้าออกไปเท่าไหร่ ค่าปรับก็จะสะสมมากขึ้นเท่านั้น
- กรณีขาดต่อภาษีเกิน 3 ปี รถยนต์จะถูกระงับป้ายทะเบียน และต้องดำเนินการส่งคืนป้ายให้กรมการขนส่งทางบกภายใน 30 วัน หากส่งช้าเกินกำหนดจะมีค่าปรับไม่เกิน 1,000 บาท นอกจากนี้ยังต้องดำเนินการขอเลขทะเบียนใหม่และเสียค่าปรับย้อนหลังด้วย
ต่อภาษีรถยนต์ได้ที่ไหนบ้าง
- สำนักงานขนส่งทั่วประเทศ สามารถต่อภาษีได้ที่สำนักงานขนส่งทุกจังหวัด ไม่จำกัดว่าต้องเป็นจังหวัดที่จดทะเบียน เป็นช่องทางหลักและเชื่อถือได้มากที่สุด
- จุดบริการเลื่อนล้อต่อภาษี (Drive Thru) บริการแบบไดรฟ์ทรู ที่ไม่ต้องลงจากรถ เพียงเตรียมเอกสารให้พร้อมและยื่นผ่านหน้าต่าง ประหยัดเวลาและสะดวกสำหรับผู้ที่รีบเร่ง
- ตู้รับชำระภาษีอัตโนมัติ (Kiosk) ให้บริการตนเองผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์ สามารถชำระและพิมพ์ป้ายภาษีได้ทันที หรือเลือกให้จัดส่งทางไปรษณีย์ก็ได้
- ที่ทำการไปรษณีย์ สำหรับรถที่ผ่อนหมดแล้ว มีค่าธรรมเนียม 40 บาท ป้ายภาษีจะถูกจัดส่งตามที่อยู่ที่ระบุไว้
- ห้างสรรพสินค้า หลายห้างให้บริการต่อภาษีในวันหยุดสุดสัปดาห์ เช่น บิ๊กซี เซ็นทรัล พาราไดซ์ พาร์ค
- เคาน์เตอร์เซอร์วิส มีค่าบริการ 20 บาท และค่าจัดส่งป้ายภาษี 40 บาท เฉพาะรถที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี
ยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้ไหม
สำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานไม่เกิน 7 ปี สามารถยื่นต่อภาษีรถยนต์ออนไลน์ได้อย่างสะดวกสบายผ่าน 2 ช่องทางหลัก คือ
- เว็บไซต์ของกรมการขนส่งทางบก ผ่านระบบบริการอิเล็กทรอนิกส์ (e-Service)
- แอปพลิเคชัน DLT Vehicle Tax
วิธีคำนวณก่อนต่อภาษีรถยนต์ส่วนบุคคลทั่วไป
การคำนวณราคาต่อภาษีรถยนต์ สำหรับรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีที่นั่งไม่เกิน 7 ที่นั่ง จะคำนวณจากขนาดของเครื่องยนต์ หรือ ซีซี ตั้งแต่เครื่องยนต์ขนาด 1,000 ซีซี ไปจนถึงขนาด 3,000 ซีซี โดยเป็นอัตราภาษีที่ต้องจ่ายสำหรับรถอายุการใช้งานไม่เกิน 5 ปี และเป็นรถป้ายทะเบียนพื้นขาวตัวหนังสือดำ ซึ่งรวมถึงราคาต่อภาษีรถกระบะ 4 ประตูด้วย โดยแบ่งวิธีคำนวณไปตามช่วงขนาดของเครื่องยนต์ 3 ช่วงคือ
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี คิดเป็นซีซี ละ 50 สตางค์
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 601-1,800 ซีซี คิดเป็นซีซี ละ 1.50 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1,801 ซีซี ขึ้นไป คิดเป็นซีซี ละ 4 บาท
ส่วนลดภาษีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 6 ปีขึ้นไป
รถที่มีอายุการใช้งานนานจะได้รับส่วนลดต่อภาษีรถยนต์ โดยส่วนลดสำหรับรถยนต์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 6-10 ปีขึ้นไป ได้ส่วนลดค่าภาษีรถยนต์ ดังนี้
- 6 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 10%
- 7 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 20%
- 8 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 30%
- 9 ปี รับส่วนลดค่าภาษี 40%
- 10 ปีขึ้นไป รับส่วนลดค่าภาษี 50%
ต่อภาษีรถยนต์ 2568 ราคาเท่าไหร่
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู ตามขนาดเครื่องยนต์ | ภาษีรถยนต์ 4 ประตู |
รถ 4 ประตู ขนาดเครื่องยนต์ 1,000 ซีซี | ต่อภาษีรถยนต์ราคา 900 บาทต่อปี |
รถ 4 ประตู ขนาดเครื่องยนต์ 1,200 ซีซี | ต่อภาษีรถยนต์ราคา 1,200 บาทต่อปี |
รถ 4 ประตู ขนาดเครื่องยนต์ 1,500 ซีซี | ต่อภาษีรถยนต์ราคา 1,650 บาทต่อปี |
รถ 4 ประตู ขนาดเครื่องยนต์ 1,900 ซีซี | ต่อภาษีรถยนต์ราคา 2,500 บาทต่อปี |
รถ 4 ประตู ขนาดเครื่องยนต์ 2,000 ซีซี | ต่อภาษีรถยนต์ราคา 2,900 บาทต่อปี |
รถ 4 ประตู ขนาดเครื่องยนต์ 3,000 ซีซี | ต่อภาษีรถยนต์ราคา 6,900 บาทต่อปี |
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 1,000 ซีซี (ราคา 900 บาท)
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 1,000 ซีซี เช่น Nissan Almera มีวิธีการคำนวณดังนี้
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี = 600 x 0.5 = 300 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 601-1,000 ซีซี = 400 x 1.5 = 600 บาท
ดังนั้น ภาษีรถเก๋ง 1,000 ซีซี ราคา 900 บาท
ส่วนลดภาษีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 6 ปีขึ้นไป
- 6 ปี ลด 10% : 900-10% = 810 บาท
- 7 ปี ลด 20% : 900-20% = 720 บาท
- 8 ปี ลด 30% : 900-30% = 630 บาท
- 9 ปี ลด 40% : 900-40% = 540 บาท
- 10 ปีขึ้นไป ลด 50% : 900-50% = 450 บาท
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 1,200 ซีซี (ราคา 1,200 บาท)
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 1,200 ซีซี เช่น Toyota Yaris มีวิธีการคำนวณดังนี้
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี = 600 x 0.5 = 300 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 601-1,800 ซีซี = 600 x 1.5 = 900 บาท
ดังนั้น ภาษีรถเก๋ง 1,200 ซีซี ราคา 1,200 บาท
ส่วนลดภาษีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 6 ปีขึ้นไป
- 6 ปี ลด 10% : 1,200-10% = 1,080 บาท
- 7 ปี ลด 20% : 1,200-20% = 960 บาท
- 8 ปี ลด 30% : 1,200-30% = 840 บาท
- 9 ปี ลด 40% : 1,200-40% = 720 บาท
- 10 ปีขึ้นไป ลด 50% : 1,200-50% = 600 บาท
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 1,500 ซีซี (ราคา 1,650 บาท)
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 1,500 ซีซี เช่น Honda Civic มีวิธีการคำนวณดังนี้
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี = 600 x 0.5 = 300 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 601-1,800 ซีซี = 900 x 1.5 = 1,350 บาท
ดังนั้น ภาษีรถเก๋ง 1,500 ซีซี ราคา 1,650 บาท
ส่วนลดภาษีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 6 ปีขึ้นไป
- 6 ปี ลด 10% : 1,650-10% = 1,485 บาท
- 7 ปี ลด 20% : 1,650-20% = 1,320 บาท
- 8 ปี ลด 30% : 1,650-30% = 1,155 บาท
- 9 ปี ลด 40% : 1,650-40% = 990 บาท
- 10 ปีขึ้นไป ลด 50% : 1,650-50% = 825 บาท
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 1,900 ซีซี (ราคา 2,500 บาท)
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 1,900 ซีซี เช่น Mazda3 มีวิธีการคำนวณดังนี้
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี = 600 x 0.5 = 300 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 601-1,800 ซีซี = 1200 x 1.5 = 1,800 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1,801 ซีซี ขึ้นไป = 100 x 4 = 400 บาท
ดังนั้น ภาษีรถเก๋ง 1,900 ซีซี ราคา 2,500 บาท
ส่วนลดภาษีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 6 ปีขึ้นไป
- 6 ปี ลด 10% : 2,500-10% = 2,250 บาท
- 7 ปี ลด 20% : 2,500-20% = 2,000 บาท
- 8 ปี ลด 30% : 2,500-30% = 1,750 บาท
- 9 ปี ลด 40% : 2,500-40% = 1,500 บาท
- 10 ปีขึ้นไป ลด 50% : 2,500-50% = 1,250 บาท
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 2,000 ซีซี (ราคา 2,900 บาท)
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 2,000 ซีซี ขึ้นไป มักเป็นภาษีรถกระบะ 4 ประตู เช่น Mitsubishi Triton
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี = 600 x 0.5 = 300 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 601-1,800 ซีซี = 1200 x 1.5 = 1,800 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1,801 ซีซี ขึ้นไป = 200 x 4 = 800 บาท
ดังนั้น ภาษีรถกระบะ 4 ประตู เครื่อง 2,000 ซีซี ราคา 2,900 บาท
ส่วนลดภาษีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 6 ปีขึ้นไป
- 6 ปี ลด 10% : 2,900-10% = 2,610 บาท
- 7 ปี ลด 20% : 2,900-20% = 2,320 บาท
- 8 ปี ลด 30% : 2,900-30% = 2,030 บาท
- 9 ปี ลด 40% : 2,900-40% = 1,740 บาท
- 10 ปีขึ้นไป ลด 50% : 2,900-50% = 1,450 บาท
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 3,000 ซีซี (ราคา 6,900 บาท)
ภาษีรถยนต์ 4 ประตู เครื่อง 3,000 ซี.ซี. ขึ้นไป มักจะเป็นภาษีรถกระบะ 4 ประตู เช่น Toyota Hilux Vigo
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1-600 ซีซี = 600 x 0.5 = 300 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 601-1,800 ซีซี = 1200 x 1.5 = 1,800 บาท
- ช่วงเครื่องยนต์ขนาด 1,801 ซีซี ขึ้นไป = 1200 x 4 = 4,800 บาท
ดังนั้น ภาษีรถกระบะ 4 ประตู เครื่อง 3,000 ซีซี ราคา 6,900 บาท
ส่วนลดภาษีรถยนต์ที่มีอายุการใช้งาน 6 ปีขึ้นไป
- 6 ปี ลด 10% : 6,900-10% = 6,210 บาท
- 7 ปี ลด 20% : 6,900-20% = 5,520 บาท
- 8 ปี ลด 30% : 6,900-30% = 4,830 บาท
- 9 ปี ลด 40% : 6,900-40% = 4,140 บาท
- 10 ปีขึ้นไป ลด 50% : 6,900-50% = 3,450 บาท
เตรียมตัวให้พร้อม ต่อภาษีรถใช้เอกสารอะไรบ้าง
สิ่งสำคัญที่เหล่ากู๊ดดี้ต้องทำก่อนไปต่อภาษีรถคือ ต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ก่อนเสมอ เพราะจำเป็นต้องใช้เอกสารส่วนหางของ พ.ร.บ. ที่ได้มาเพื่อยื่นขอต่อภาษีรถยนต์ด้วย สรุปแล้วต่อภาษีรถใช้เอกสารอะไรบ้าง มาดูกันเลย
- สมุดคู่มือจดทะเบียนรถยนต์ (ตัวจริงหรือสำเนา)
- หาง พ.ร.บ. รถยนต์ (ส่วนล่างของ พ.ร.บ. รถยนต์) (ตัวจริงหรือสำเนา แต่กรณีใช้สำเนาจะต้องเป็นสำเนาที่มีครบทั้งส่วนหัวและหางของ พ.ร.บ. )
- ใบตรวจสภาพรถจาก ตรอ.
- ใบตรวจสภาพแก๊ส (กรณีรถแก๊ส)
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการต่อภาษีรถยนต์
1. ต่อภาษีรถยนต์ 7 ที่นั่ง ราคาเท่าไหร่
รถยนต์ส่วนบุคคลเกิน 7 ที่นั่ง (ป้ายทะเบียนพื้นขาว ตัวหนังสือสีน้ำเงิน) เช่น รถตู้ จะมีวิธีคำนวณราคาต่อภาษีรถยนต์ตามน้ำหนัก ดังนี้
- น้ำหนักรถไม่เกิน 1,800 กก. อัตราภาษี 1,300 บาท
- น้ำหนักรถเกิน 1,800 กก. อัตราภาษี 1,600 บาท
2. รถยนต์อายุ 10 ปี เสียภาษีรถยนต์เท่าไหร่
รถยนต์ที่มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 10 ปีขึ้นไป จะได้รับส่วนลดค่าภาษีถึง 50% ตัวอย่างเช่น ถ้าภาษีปกติราคา 1,800 บาท พออายุครบ 10 ปี ก็จะได้รับส่วนลด 50% เหลือจ่ายเพียง 900 บาท
3. รถปีไหนต้องตรวจสภาพในปี 2568
รถยนต์ที่มีอายุครบ 7 ปี ต้องนำรถไปเข้าตรวจสภาพกับ ตรอ. นั่นแปลว่า รถยนต์ที่จดทะเบียน ปี 2561 ต้องตรวจสภาพรถ ตรอ. ครั้งแรก ปี 2568
4. รถกี่ปีต้องตรวจสภาพ
- รถยนต์ส่วนบุคคล (เก๋ง, กระบะ, SUV) มีอายุใช้งานครบ 7 ปีขึ้นไป
- รถจักรยานยนต์ มีอายุใช้งานครบ 5 ปีขึ้นไป
5. ภาษีรถยนต์หมดอายุได้กี่วัน
ภาษีรถยนต์ไม่ควรหมดอายุแม้แต่วันเดียว หากขาดต่อภาษีไปเพียง 1 วัน ก็จะเริ่มถูกคิดค่าปรับในอัตราร้อยละ 1 ของค่าภาษีต่อเดือนทันที ดังนั้นควรต่อภาษีล่วงหน้า (ได้สูงสุด 90 วัน) จะดีที่สุด
6. ทําไมภาษีรถยนต์แต่ละคันถึงไม่เท่ากัน
ภาษีรถยนต์แต่ละคันไม่เท่ากัน เพราะการคำนวณภาษีมีปัจจัยที่แตกต่างกันไปในรถแต่ละประเภท โดยปัจจัยหลัก ๆ ได้แก่
- ประเภทของรถ (รถเก๋ง, รถกระบะ, รถตู้)
- ขนาดความจุของเครื่องยนต์ (ซีซี)
- อายุของรถ (ซึ่งมีผลต่อส่วนลดภาษี)
สรุป เตรียมเงินให้พร้อมก่อนต่อภาษีรถยนต์
ค่าภาษีรถยนต์อาจดูไม่ได้มีราคาสูงมากนัก แต่อย่าลืมว่าในทุก ๆ ปีนอกจากค่าภาษีรถยนต์แล้ว ยังมีค่า พ.ร.บ. รถยนต์ ค่าประกันรถยนต์ และค่าใช้จ่ายอื่น ๆ อีกมากมาย ดังนั้น การเตรียมเงินให้พร้อมก่อนต่อภาษีรถยนต์ 4 ประตูทุกประเภท เป็นเรื่องที่เหล่ากู๊ดดี้ต้องวางแผนให้รอบคอบ เพราะบางคนอาจไม่ได้มีรถยนต์แค่คันเดียว และถ้าไม่ไปต่อภาษี ลืมต่อภาษี ปล่อยให้ทะเบียนรถขาดอาจถูกปรับตามกฎหมายได้อีกด้วย
ที่มา : one2car