เชื่อว่า รถยุโรปเป็นรถในฝันของใครหลาย ๆ คน เพราะนอกจากมีดีไซน์หรูหรา เสริมความลักชูรี่ให้กับผู้ใช้แล้ว ยังโดดเด่นในเรื่องของสมรรถนะอีกด้วย วันนี้ heygoody เลยขอเอาใจคอรถหรู ชวนรู้จักกับ 5 แบรนด์รถยุโรปในไทยที่ใคร ๆ ต่างอยากได้สัมผัสและเป็นเจ้าของรถแบรนด์เหล่านี้สักครั้ง พร้อมแนะนำ 5 รุ่นน่าใช้ แฟน ๆ รถยุโรปกระเป๋าหนักเตรียมจดลิสต์ไว้ได้เลย!
ต้องบอกก่อนว่า ยี่ห้อรถยุโรปทั้งหมดที่วางจำหน่ายในไทยมีให้เลือกสรรมากมาย แต่ในบทความนี้ขอยก 5 แบรนด์ดังมาแนะนำ ซึ่งเป็นแบรนด์ที่เปิดตลาดในไทยมาอย่างยาวนาน และเป็นอันดับแรก ๆ ที่คนไทยส่วนใหญ่นึกถึง จะมีแบรนด์อะไรบ้าง มาดูกัน
ถ้าพูดถึงรถยุโรปแบรนด์ฮิตในไทยจะขาด BMW แบรนด์รถยนต์หรูสัญชาติเยอรมันไปไม่ได้เลย เพราะเป็นแบรนด์ที่ตีตลาดในไทยและได้รับความไว้วางใจจากผู้ใช้รถมายาวนานมากกว่า 60 ปี จุดเด่นของ BMW คือ ดีไซน์หรูหรา โฉบเฉี่ยวดูสะดุดตา มาพร้อมเทคโนโลยีช่วยอำนวยความสะดวกมากมาย โดยประเภทที่วางจำหน่ายในไทย มีให้เลือกทั้ง SUV, Sedan, Coupe, Convertible และ Gran Turismo เช่น รุ่น 2 Series, 3 Series, 6 Series, X1, iX, X5, X7, Z4 และ i4 เป็นต้น
อีกยี่ห้อรถยุโรปที่มาสูสีกันคือ Mercedes-Benz หรือที่คนไทยเรียกติดปากว่า รถเบนซ์ จุดเด่นอยู่ที่ดีไซน์สปอร์ตแบบพรีเมียม เน้นความแข็งแกร่ง บึกบึน แฝงด้วยความปราดเปรียว ผสานกับสมรรถนะอันยอดเยี่ยม และเทคโนโลยีล้ำสมัยที่นำมาพัฒนารถอยู่ตลอดเวลา จึงไม่แปลกใจว่า ทำไมเบนซ์ถึงเป็นแบรนด์ที่ได้รับความนิยมนับตั้งแต่ปีที่เปิดตัว
สำหรับประเภทรถที่นำเข้าและจัดจำหน่ายในไทย มีทั้ง Saloon, Coupe, Roadsters และ Premium Van เช่น รุ่นที่คนไทยคุ้นเคยกันอย่าง A-Class, C-Class, E-Class, S-Class รวมถึง AMG GLA, AMG GLC และ AMG GT R เป็นต้น
เรื่องความปลอดภัยต้องยกให้ Volvo แบรนด์รถหรูจากสวีเดนที่มีอายุยาวนานเกือบร้อยปี ความพิเศษของรถแบรนด์นี้คือ ตัวรถทุกรุ่นติดตั้งเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง เช่น ระบบเบรกป้องกันล้อล็อก (ABS) ระบบควบคุมการทรงตัว (ESP) และระบบป้องกันก่อนชน (PCS) เป็นต้น มาพร้อมสมรรถนะการขับขี่ที่ดีเยี่ยมไม่แพ้รถแบรนด์ยุโรปอื่น ๆ ดีไซน์หรูหราแบบไม่โอ้อวด เน้นความเรียบ แต่ทันสมัย และบ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ขับขี่ตามแบบฉบับของ Volvo
ในบ้านเรา Volvo ได้นำรถยนต์ SUV เข้ามาจำหน่ายหลายรุ่น ทั้งรุ่นที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานไฟฟ้าและระบบไฮบริด เช่น XC90, XC60, S60, S90, V40 และ C40 เป็นต้น
Audi อีกหนึ่งยี่ห้อที่นำเข้าจากเยอรมนี รถยุโรปคู่ใจไฮโซระดับไฮเอนด์ โดดเด่นด้วยยานยนต์ที่มีนวัตกรรมอันล้ำสมัย ขับขี่ง่าย ดีไซน์สวยทั้งภายในและภายนอก พร้อมเทคโนโลยีอันทันสมัย ไม่แพ้แบรนด์อื่น ๆ ในยุโรปเลยทีเดียว ส่วนเครื่องยนต์ก็มีให้เลือกตั้งแต่เครื่องเบนซิน เครื่องไฮบริด และรถยนต์พลังงานไฟฟ้า ปัจจุบัน Audi ได้พาความพรีเมียมมาให้คนไทยได้สัมผัสหลายประเภท หลายรุ่นด้วยกัน เช่น A1, A3, A5, Q3, Q5, e-tron และ TT เป็นต้น
ปิดท้ายด้วย Porsche แบรนด์รถหรูที่คร่ำหวอดในวงการอุตสาหกรรมยานยนต์มาอย่างยาวนาน แบรนด์นี้ขึ้นชื่อเรื่องความแรงของสมรรถนะ อัตราเร่งดี ใช้งานได้หลากหลาย ขับทุกวันก็ยังได้ มาพร้อมรูปทรงโฉบเฉี่ยวเป็นเอกลักษณ์ ให้ความสปอร์ตตั้งแต่แรกเห็น ถ้าถามว่า Porsche ฮอตในไทยขนาดไหน ก็ชนิดที่ว่า ไม่ว่าจะออกรุ่นไหนมาก็กลายเป็นตำนานให้คนพูดถึงกันอยู่เสมอ โดยในประเทศไทยมีการนำเข้ามาจำหน่ายหลายรุ่น เช่น รุ่น 911 Carrerra, 911 Turbo และ 911 GT3 เป็นต้น
รู้จักทั้ง 5 แบรนด์กันพอหอมปากหอมคอแล้ว มาดูกันต่อว่า ในปี 2024 นี้ แต่ละแบรนด์มีรถยุโรปน่าใช้รุ่นไหนบ้าง?
เครดิตรูปภาพ : HeadlightMag
BMW i5 รถยนต์ไฟฟ้ารุ่นแรกจากตระกูล BMW series 5 มีการอัปเกรดคุณสมบัติใหม่มากมายไม่ว่าจะเป็น เครื่องปรับอากาศแบบอัตโนมัติ ระบบกรองฝุ่นละอองระดับนาโนพาร์ทิเคิลเพื่อส่งมอบอากาศบริสุทธิ์ตลอดเส้นทาง การออกแบบยังคงเน้นความสปอร์ตควบคู่ไปกับความหรูหรา ขนาดรถกว้างขึ้น กระจายน้ำหนักหน้า-หลังที่อัตราส่วน 50:50 ท้ายรถเตะตาด้วยไฟท้ายดีไซน์เรียบหรู
BMW i5 มาพร้อมระบบขับเคลื่อน 4 ล้อแบบพลังงานไฟฟ้า BMW xDrive Electric กับชุดมอเตอร์ที่ให้กำลังขับสูงสุด 442 กิโลวัตต์ / 601 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 795 นิวตันเมตร หรือสูงสุดกว่า 820 นิวตันเมตร เมื่อเปิดใช้งานระบบ M Sport Boost หรือ M Launch Control รองรับการชาร์จทั้งแบบไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) และกระแสตรง (DC) สามารถชาร์จแบตเตอรี่จาก 10-80% ภายในเวลาเพียง 30 นาที
ราคาอย่างเป็นทางการ
เครดิตรูปภาพ : ไทยรัฐ
Mercedes-Benz GLC 350 e 4MATIC AMG Dynamic รถ SUV ปลั๊กอินไฮบริดขนาดกลางที่ผสานความสปอร์ตและความหรูหราอย่างลงตัว ให้กำลังแรงม้ารวมสูงสุด 313 แรงม้า และแรงบิดรวมสูงสุด 550 นิวตันเมตร จับคู่กับแบตเตอรี่ลิเธียมไอออนแรงดันสูงที่มีความจุ 31.2 kWh ช่วยให้ขับขี่ได้ไกลมากกว่า 120 กิโลเมตรต่อการชาร์จเต็มหนึ่งครั้ง ตามมาตรฐาน WLTP แถมยังชาร์จด่วน (DC) จาก 10-80% ภายในเวลาเพียง 20 นาที เท่านั้น
ราคาอย่างเป็นทางการ
เครดิตรูปภาพ : Volvo
Volvo EX30 รถยนต์ไฟฟ้า 100% น้องใหม่ล่าสุดจาก Volvo เป็นรถ SUV ขนาดเล็กที่สุดเท่าที่เคยมีมาของ Volvo ถึงจะจิ๋วสุดในรุ่นแต่บอกเลยว่า เล็กพริกขี้หนู เพราะอัดแน่นไปด้วยเทคโนโลยีความปลอดภัยขั้นสูง ดีไซน์สวยงามทันสมัย และฟีเจอร์มากมายที่อำนวยความสะดวกสบายในการขับขี่ ใครอาศัยอยู่ในเมือง และกำลังมองหารถไฟฟ้าที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ต้องรุ่นนี้เลย
รถ Volvo EX30 คันนี้มาพร้อมมอเตอร์ 2 ขนาด รุ่น Core และ Ultra ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขนาด 200 kW 1 ตัว พละกำลังสูงสุด 272 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 343 นิวตันเมตร ส่วนรุ่น Performance จะใช้มอเตอร์ไฟฟ้าคู่ พละกำลังสูงสุด 428 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 543 นิวตันเมตร ใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออน NMC ความจุรวม 69 kWh เหมือนกันทุกรุ่น และใช้เวลาในการชาร์จด่วน (DC) จาก 10-80% ใน 25 นาที
ราคาอย่างเป็นทางการ
เครดิตรูปภาพ : Audi
Audi Q8 e-tron รถยนต์ไฟฟ้า 100% รุ่นใหญ่สุดในบรรดารถ SUV ของ Audi โดดเด่นด้วยดีไซน์ใหม่สุดล้ำสมัย ผสานความสปอร์ตและความพรีเมียมเข้าด้วยกัน สะท้อนความเป็นผู้นำแห่งโลกยนตรกรรมไฟฟ้าอย่างสมบูรณ์แบบ มีให้เลือก 2 รูปแบบตัวถัง คือ แบบ 5 ประตู SUV กับ 5 ประตู Sportback และมีสีตัวถังให้เลือกถึง 6 สี
Audi Q8 e-tron วางจำหน่ายตลาดในไทย 4 รุ่นย่อย ได้แก่ Q8 e-tron 50 quattro, Q8 Sportback e-tron 50 quattro S line, Q8 e-tron 55 quattro Black Edition และ Q8 Sportback e-tron 55 quattro S line Black Edition โดยมีให้เลือก 2 ขุมพลังขึ้นอยู่กับรุ่นย่อย ได้แก่ มอเตอร์คู่กำลังสูงสุด 313 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 540 นิวตันเมตร และมอเตอร์คู่กำลังสูงสุด 360 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 561 นิวตันเมตร
ราคาอย่างเป็นทางการ
เครดิตรูปภาพ : Porsche Newsroom
Porsche Macan 2024 รถยนต์ไฟฟ้าอเนกประสงค์แบบ SUV ที่ยังเอกลักษณ์ดั้งเดิมของ Porsche ด้วยทรงคูเป้ จัดเต็มเทคโนโลยีและระบบความปลอดภัย ทั้งระบบเลี้ยว 4 ล้อ ระบบกันสะเทือนแบบสปริงลม ระบบช่วยขับขี่ที่ช่วยให้การขับขี่ในเมืองเป็นไปได้อย่างคล่องแคล่ว
Porsche Macan มีให้เลือก 2 รุ่นย่อย ได้แก่ Macan 4 และ Macan Turbo โดยทั้งสองรุ่นมาพร้อมกับมอเตอร์ไฟฟ้าคู่ แต่ Macan 4 ให้กำลังสูงสุด 408 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 650 นิวตันเมตร ส่วน Macan Turbo ให้กำลังสูงสุด 639 แรงม้า และแรงบิดสูงสุด 1,130 นิวตันเมตร พ่วงด้วยแบตเตอรี่ลิเธียมไอออน ความจุ 95 kWh สามารถชาร์จด่วน (DC) จาก 10-80% ได้ในเวลาเพียง 21 นาที
ราคาอย่างเป็นทางการ
เป็นยังไงบ้างกับรถยุโรปน่าใช้ทั้ง 5 คัน ที่เราหยิบยกมาให้ดูกัน อยากเป็นเจ้าของรุ่นไหน แนะนำให้ศึกษารายละเอียดให้ครบถ้วน เพราะแต่ละรุ่นมีฟังก์ชันเด็ด ๆ ที่กินกันไม่ลงเลยทีเดียว และอย่าลืมทำประกันภัยรถยนต์ติดรถเอาไว้ด้วยนะ โดยเฉพาะประกันรถยนต์ชั้น 1 ที่ช่วยเซฟรถหรูครบทุกด้าน ไม่ว่าจะชนแบบมีหรือไม่มีคู่กรณี น้ำท่วม ไฟไหม้ หรือรถถูกโจรกรรมก็หมดห่วงได้เลย สามารถเข้ามาเปรียบเทียบประกันรถยนต์ไฟฟ้าผ่านเว็บไซต์ heygoody ได้แล้ววันนี้ มั่นใจ 100% ว่าจะเจอกรมธรรม์ที่ตอบโจทย์แน่นอน!
ที่มา : HeadlightMag, AutoStation, Autospinn, MRG Online และ KAPOOK
