อุบัติเหตุบนท้องถนนเกิดขึ้นได้เป็นประจำ ถึงเราจะเคร่งครัดในกฎจราจรและระมัดระวังเป็นอย่างดีแล้ว ก็ยังมีคนประมาทไม่เกรงใจใครร่วมทางกับเราอยู่รอบตัวไปหมด โดยเฉพาะรถโดนชนท้ายเป็นเหตุเกิดประจำจากความไม่รอบคอบของผู้ร่วมทาง คนส่วนใหญ่ชอบมองว่าคนชนท้ายยังไงก็ผิด แต่จริง ๆ แล้วยังมีรายละเอียดที่ต้องพิจารณามากกว่านั้น เพราะมีไม่น้อยเลยที่รถคันหน้าเป็นตัวต้นเรื่อง วันนี้ heygoody จะมาอธิบายให้ทุกคนเข้าใจว่ารถโดนชนท้ายดูยังไงใครผิดหรือถูก ประกันคุ้มครองเคสไหน รับผิดชอบค่าสินไหมทดแทนรถชนยังไงบ้าง
รถโดนชนท้ายต้องพิจารณาหลายอย่างถึงจะตัดสินได้ว่าใครถูกใครผิด ถ้าว่ากันตามกฎหมายผู้ขับขี่ต้องขับให้ห่างจากคันหน้าพอสมควรในระยะที่หยุดได้แบบปลอดภัยเมื่อจำเป็นต้องหยุดรถ เพื่อให้ทุกคนนึกภาพเหตุการณ์ได้ชัดเจน heygoody ขอยกเคสรถชนกันในรูปแบบต่าง ๆ มาวิเคราะห์ให้ดูว่าบริษัทประกันตัดสินยังไง
เคสแรก ฝ่ายชนท้ายขับจี้เกินไปไม่เว้นระยะห่างผิดแน่นอน เพราะกฎหมายบอกไว้อยู่แล้วว่ารถทุกคันต้องเว้นระยะห่างจากคันหน้าในระยะปลอดภัย ใครเป็นสายจี้ระวังให้ดีประกันฝ่ายคู่กรณีต้องตัดสินให้คนชนท้ายรับผิดชอบค่าเสียหาย
เคสถัดมา รถคันหน้าเปลี่ยนเลนกะทันหันแบบไม่เปิดไฟเลี้ยวขอทาง “คันหน้าผิด” เพราะเปลี่ยนเลนในระยะไม่ปลอดภัย ผิดกฎหมายจราจรทางบก มาตรา 43 ฐานขับรถประมาทหวาดเสียวทำให้เกิดอันตรายต่อบุคคลและทรัพย์สินโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของผู้อื่น กลับกันถ้ารถคันข้าง ๆ เปลี่ยนเลนในระยะปลอดภัยเปิดไฟเลี้ยวขอก่อน ก็ยังเกิดอุบัติเหตุ เคสนี้รถทางตรงเป็นฝ่ายผิด หรืออาจตัดสินเป็นประมาทร่วมได้ตามหลักฐานประกอบ
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายถูกชนท้ายหรือเราเป็นคนชนเอง ถ้ามีปริมาณแอลกอฮอล์เกิน 20 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ต้องระวางโทษตามกฎหมายจราจรทางบก มาตรา 160 ปรับตั้งแต่ 5,000-20,000 บาทหรือทั้งจำทั้งปรับ และถูกพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ไม่น้อยกว่า 6 เดือนหรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่ แถมประกันไม่คุ้มครองค่าเสียหายจากเคสนี้อีกด้วย
รถชนกันหลายคัน คันไหนผิดเคสนี้มีหลายแบบมาก ๆ heygoody ขอยกตัวอย่าง 3 เคสดังนี้
รถคันที่ 2 ถูกรถคันที่ 3 ชนท้ายก่อน ทำให้รถคันที่ 2 พุ่งไปชนคันที่ 1 เคสนี้รถคันที่ 3 ต้องชดเชยค่าเสียหายของรถคันที่ 1 และ 2
เมื่อเราเป็นคันแรกแล้วถูกคันอื่นปาดหน้าจนต้องเบรกกะทันหัน ทำให้มีรถต่อเนื่อง 2-3 คัน เคสนี้คันที่ปาดหน้าต้องรับผิดชอบทุกคัน ถ้ามีหลักฐานเป็นวิดีโอที่เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ประกันสามารถติดตามตัวมารับผิดชอบได้ไม่ยาก
เคสสุดท้าย เมื่อเราเป็นคันที่ 2 ไปชนท้ายคันหน้าและถูกรถคันที่ 3 ชนท้ายอีกที เคสนี้ต้องแยกกันรับผิดชอบ เริ่มจากเราต้องรับผิดชอบคันที่ 1 และคันที่ 3 ต้องรับผิดชอบความเสียหายของเรา
เมื่อเกิดเหตุรถโดนชนท้าย ถ้ามีประกันไม่ว่าจะชั้น 1, 2+ หรือ 3+ ทางบริษัทพร้อมให้ความช่วยเหลือเราเสมอ heygoody แนะนำว่าไม่ควรตกลงรับผิดกับคู่กรณีทันที ควรให้เจ้าหน้าที่จากประกันทั้ง 2 ฝ่ายมาไกล่เกลี่ยกันดีกว่า เพราะอุบัติเหตุแบบนี้ต้องใช้หลักฐานในทั้งหมดเข้ามาประกอบการพิจารณาด้วย ไม่งั้นเราจะเสียเปรียบทันทีถ้าไม่ได้ผิดจริง ความคุ้มครองจากประกันแบ่งได้เป็น 2 กรณีดังนี้
มีหลักฐานยืนยันได้ว่าเป็นฝ่ายถูก ประกันของคู่กรณีต้องรับผิดชอบความเสียหายตามจริง ถ้าคู่กรณีไม่มีประกันก็ต้องรับผิดชอบค่าเสียหายด้วยตัวเอง
เมื่อเป็นฝ่ายผิดประกันจะให้รับผิดชอบค่าเสียหายของคู่กรณีตามที่ตกลงในกรมธรรม์ พร้อมจัดการภาระต่าง ๆ และเดินเรื่องแทนเราทั้งหมด แต่ถ้าเราไม่มีประกันก็ต้องควักเนื้อรับผิดชอบค่าเสียหายเองทั้งหมด
สิ่งที่ผู้ใช้รถทุกคนต้องคำนึงคือ ความปลอดภัยทั้งตัวเองและเพื่อนร่วมทาง ควรมีสมาธิกับการบังคับรถ ไม่ว่อกแว่ก ถึงจะขับรถเก่ง ไหวพริบดีแค่ไหนก็ประมาทได้ทั้งนั้น ถ้าให้ดีควรทำประกันเอาไว้ไม่ว่าจะชั้นไหนก็ตาม เพื่อช่วยลดค่าใช้จ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุดีกว่ารับผิดชอบเองหลายเท่าตัว ใครยังลังเลอยู่อย่าคิดนานเลือกเปรียบเทียบประกันภัยรถยนต์ที่ถูกใจกับ heygoody ได้เลย ไม่ว่าจะเป็นค่าเบี้ยประกัน ความคุ้มครอง ทุนประกันภัย รวมไปถึงช่องทางชำระเงินเลือกจ่ายสดหรือผ่อน 0% ก็ได้หมด จบในทีเดียว
