จะทริปไหน ๆ ก็ไม่อยากให้มีอะไรมาขัดจังหวะความสนุก โดยเฉพาะปัญหาคลาสสิกอย่างกระเป๋าเดินทางหาย บอกเลยว่าเป็นฝันร้ายของนักเดินทางทุกคน! แต่เหล่ากู๊ดดี้เที่ยวไม่ต้องกลัว เพราะวันนี้ heygoody สรุปขั้นตอนที่ต้องทำเมื่อรู้ว่ากระเป๋าเดินทางหายที่สนามบินมาให้ครบ มาดูกันเลยว่าต้องทำอะไรบ้าง
เมื่อมั่นใจแล้วว่า กระเป๋าเดินทางหายไปจากสายพาน สิ่งแรกที่ต้องทำคือตั้งสติ อย่าเพิ่งเดินออกจากบริเวณรับกระเป๋าเด็ดขาด และทำตามขั้นตอนเหล่านี้ทันที
มองหาเคาน์เตอร์บริการสัมภาระหาย (Lost & Found) ซึ่งโดยส่วนใหญ่มักจะตั้งอยู่ไม่ไกลจากบริเวณสายพานรับกระเป๋า ถ้าหาไม่เจอ ให้ตรงไปที่เคาน์เตอร์ของสายการบินที่เราเดินทางมาเพื่อสอบถามและแจ้งปัญหา การแจ้งเรื่องทันทีจะทำให้เจ้าหน้าที่เริ่มติดตามกระเป๋าได้ไวขึ้น
แจ้งข้อมูลรายละเอียดกระเป๋ากับเจ้าหน้าที่ เช่น สี ขนาด ยี่ห้อ หรือสัญลักษณ์พิเศษ พร้อมเอกสารแสดงความเป็นเจ้าของกระเป๋า ได้แก่ บอร์ดดิ้งพาส (Boarding Pass), สติกเกอร์แท็กกระเป๋า (Baggage Tag) ที่ได้รับตอนเช็คอิน, หนังสือเดินทาง และรูปถ่ายกระเป๋าเดินทาง (ถ้ามี) จะช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถระบุและค้นหากระเป๋าได้ง่ายขึ้น
หลังจากเจ้าหน้าที่ตรวจสอบและพบว่า กระเป๋าเดินทางไม่ได้ตกค้างอยู่กับสายพาน หรือส่วนใดในการขนส่งกระเป๋า เจ้าหน้าที่จะออกเอกสารที่เรียกว่า Property Irregularity Report (PIR) ให้เก็บไว้เป็นหลักฐานในการเรียกร้องค่าชดเชยจากสายการบินหรือบริษัทประกัน และจะมีหมายเลขอ้างอิงสำหรับใช้ติดตามสถานะของกระเป๋า ห้ามทำหายเด็ดขาด!
อย่าปล่อยให้เรื่องเงียบ เหล่ากู๊ดดี้ควรใช้เลขอ้างอิงใน PIR เพื่อติดตามความคืบหน้ากับสายการบินเรื่อย ๆ หรือโทรติดตามสถานะกับฝ่ายบริการลูกค้า เพื่อให้มั่นใจว่ากระบวนการค้นหายังคงดำเนินอยู่ ซึ่งสายการบินจะตรวจสอบเส้นทางเดินทางของกระเป๋าผ่านระบบติดตามสัมภาระทั่วโลก โดยทั่วไปการค้นหาจะใช้เวลาไม่เกิน 21 วัน
ถ้ากระเป๋าเดินทางล่าช้าเกิน 12 ชั่วโมง เหล่ากู๊ดดี้มีสิทธิ์ขอคืนเงินค่าธรรมเนียมสัมภาระที่ชำระไปตอนเช็คอิน ซึ่งถือเป็นสิทธิขั้นพื้นฐานของผู้โดยสาร นอกจากนี้ ยังสามารถเรียกร้องค่าที่พัก ค่าเสื้อผ้า ค่าอาหาร ระหว่างที่รอกระเป๋าคืนมาได้อีกด้วย แต่ก็ขึ้นอยู่กับนโยบายของแต่ละสายการบิน
ถ้าเหล่ากู๊ดดี้ได้ทำประกันเดินทางต่างประเทศที่ครอบคลุมกรณีกระเป๋าล่าช้าหรือสูญหาย ให้รีบติดต่อบริษัทประกันทันทีเพื่อแจ้งเรื่องที่เกิดขึ้น โดยใช้เอกสาร PIR และหลักฐานอื่น ๆ ตามที่บริษัทประกันกำหนด เป็นหลักฐานสำคัญในการเริ่มกระบวนการเคลมประกัน ซึ่งจะช่วยชดเชยค่าเสียหายและความไม่สะดวกที่เกิดขึ้นได้
เมื่อครบ 21 วันและยังไม่พบกระเป๋าเดินทาง จะถือว่าสัมภาระสูญหายอย่างถาวร เหล่ากู๊ดดี้สามารถยื่นเรียกร้องค่าชดเชยจากสายการบินได้ แนะนำให้ตรวจสอบเงื่อนไขของสายการบินเกี่ยวกับค่าชดเชยและเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนก่อนยื่นคำร้อง
แน่นอนว่าการป้องกันย่อมดีกว่าการแก้ไขเสมอ ก่อนออกเดินทางครั้งต่อไป ลองนำวิธีเหล่านี้ไปใช้เพื่อลดความเสี่ยงที่กระเป๋าเดินทางหายกันนะ
แม้เหตุการณ์กระเป๋าเดินทางหายจะเป็นเรื่องน่าปวดหัว แต่หากเรารับมืออย่างมีสติและทำตามขั้นตอนอย่างถูกต้อง ก็จะช่วยให้เราสามารถจัดการปัญหาและทำให้ทริปเดินหน้าต่อไปได้
และเพื่อการเดินทางที่สบายใจไร้กังวลขั้นสุด ประกันเดินทางต่างประเทศ คือเพื่อนซี้ที่ขาดไม่ได้! Heygoody มีแผนประกันที่ครอบคลุมกรณี กระเป๋าเดินทางหาย หรือล่าช้า พร้อมชดเชยค่าเสียหายให้ทริปไม่สะดุด ซื้อออนไลน์ได้ง่าย ๆ ตลอด 24 ชม. แถมยังวางแผนซื้อล่วงหน้าได้นานสูงสุดถึง 6 เดือน ราคาเริ่มต้นแค่หลักร้อย แต่ให้ความคุ้มครองที่ครอบคลุม พร้อมโปรปัง ๆ สำหรับเหล่ากู๊ดดี้อีกเพียบ! ให้ทุกทริปของเหล่ากู๊ดดี้มีแต่ความสุขและความทรงจำดี ๆ กับ heygoody
ที่มา : JPTRAVELSTORE