เมื่อรถยนต์ประสบอุบัติเหตุจนต้องเข้าอู่ซ่อม หลายคนอาจไม่ทันนึกว่า ช่วงที่รถใช้งานไม่ได้ก็มีสิทธิ์เรียก ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้เหมือนกัน ซึ่งถือเป็นเงินชดเชยที่ช่วยแบ่งเบาภาระค่าเดินทางในแต่ละวัน ถ้าเหล่ากู๊ดดี้เป็นฝ่ายถูกและกำลังเจอสถานการณ์แบบนี้ ลองตามมาดูให้ชัดกันว่า ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้กี่วัน เตรียมเอกสารอย่างไร และต้องทำขั้นตอนไหนบ้าง ถึงจะได้เงินเข้ากระเป๋าไวแบบไม่เสียสิทธิ
ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ หรือที่เรียกว่าค่าขาดประโยชน์ระหว่างซ่อม เป็นเงินชดเชยที่ฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องจากบริษัทประกันภัยของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในการเดินทางระหว่างที่รถยนต์ไม่สามารถใช้งานได้ เงินชดเชยนี้ครอบคลุมค่าใช้จ่ายต่าง ๆ เช่น ค่าเช่ารถ ค่าแท็กซี่ ค่ารถเมล์ หรือค่ารถไฟฟ้า ที่เกิดขึ้นในระหว่างรอซ่อมรถ โดยผู้ที่เป็นฝ่ายถูกจะสามารถนำใบเสร็จค่าใช้จ่ายเหล่านี้มาเบิกจากบริษัทประกันภัยได้
สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย หรือ คปภ. ได้กำหนดอัตราค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถขั้นต่ำตามประเภทของยานพาหนะไว้ดังนี้
สำหรับรถประเภทอื่น ๆ ที่ไม่เข้าข่ายทั้ง 3 ประเภทนี้ อัตราการชดเชยจะเป็นไปตามการพิจารณาหลักฐานและการตกลงร่วมกัน
ประเด็นฮิตสุด! หลายคนสงสัยว่า ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถสูงสุดกี่วัน? โดยทั่วไปแล้ว บริษัทประกันจะประเมินระยะเวลาการซ่อมรถไว้ประมาณ 20-30 วัน แต่ถ้ารถได้รับความเสียหายหนักและจำเป็นต้องรออะไหล่ทดแทน หรืออู่ซ่อมมีคิวการซ่อมที่ยาวนาน เหล่ากู๊ดดี้สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเพิ่มขึ้นได้ โดยสูงสุดถึง 90 วัน
ทั้งนี้ต้องมีหลักฐานการพิสูจน์ว่าเป็นความจริง เช่น เอกสารการสั่งอะไหล่ หรือคิวการซ่อมจากอู่ การนับวันจะเริ่มตั้งแต่วันที่รถเกิดอุบัติเหตุหรือวันที่นำรถเข้าอู่ซ่อม และจะนับรวมวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดนักขัตฤกษ์ และวันหยุดราชการด้วย
หลังจากที่เรายื่นเอกสารทั้งหมดครบถ้วนและเจรจาตกลงจำนวนเงินค่าชดเชยกับบริษัทประกันของคู่กรณีได้เรียบร้อยแล้ว โดยทั่วไปทางบริษัทประกันจะใช้เวลาในการดำเนินการและโอนเงินค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถเข้าบัญชีของเราภายใน 7 วันทำการ
การเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถขึ้นอยู่กับประเภทของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น ซึ่งมีแนวทางการพิจารณาที่แตกต่างกัน
เมื่อเกิดอุบัติเหตุระหว่างรถสองคันและเหล่ากู๊ดดี้เป็นฝ่ายถูก สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้แน่นอน ไม่ว่ารถของเหล่ากู๊ดดี้จะมีประกันภัยหรือไม่ก็ตาม หากคู่กรณีมีประกันภัยรถยนต์ บริษัทประกันจะให้ความคุ้มครองชดเชยค่าสินไหมทดแทน แต่หากคู่กรณีไม่มีประกันหรือความคุ้มครองไม่ครอบคลุม ฝ่ายถูกยังสามารถเรียกร้องจากคู่กรณีโดยตรงได้ โดยต้องทำหนังสือระบุเป็นลายลักษณ์อักษรชัดเจนเรื่องการชดใช้ค่าเสียหาย
สำหรับอุบัติเหตุที่ไม่มีคู่กรณี เช่น รถพุ่งชนเสาไฟฟ้า หรือตกร่องระบายน้ำ จะไม่สามารถเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ เนื่องจากต้องมีฝ่ายคู่กรณีเป็นผู้รับผิดชอบเท่านั้น ยกเว้นกรณีที่มีประกันภัยรถยนต์ชั้น 1 ซึ่งสามารถเคลมได้แม้ไม่มีคู่กรณี หรือหากสามารถหาหลักฐานเช่น กล้องหน้ารถ หรือจดจำทะเบียนรถคู่กรณีได้ ก็สามารถแจ้งความและดำเนินการติดตามคู่กรณีเพื่อเรียกร้องค่าชดเชยในภายหลังได้
อ่านมาถึงตรงนี้ คงได้คำตอบกันแล้วว่า เมื่อเกิดอุบัติเหตุและไม่มีรถใช้ จะได้รับค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้กี่วัน และเงินจะเข้าตอนไหน ข้อมูลเหล่านี้ช่วยให้เราในฐานะฝ่ายถูกไม่เสียเปรียบและได้รับการชดเชยอย่างเป็นธรรม ทำให้ความไม่สะดวกสบายจากการไม่มีรถใช้บรรเทาลงได้
แน่นอนว่าอุบัติเหตุเป็นสิ่งที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่การมีประกันรถยนต์ดี ๆ ติดรถไว้ก็เหมือนมีผู้ช่วยส่วนตัวคอยดูแลเรื่องยุ่งยากเหล่านี้ให้ heygoody คัดสรรแผนประกันรถยนต์ที่ดีที่สุดจากบริษัทชั้นนำมาให้เหล่ากู๊ดดี้เลือกครบ ทั้งประกันรถยนต์ทั่วไปและประกันรถไฟฟ้า เช็คเบี้ยประกันได้เองในไม่กี่คลิก แถมยังเลือกผ่อนชำระได้แบบสบายกระเป๋า เลือกประกันที่ใช่ จ่ายง่าย ไม่หนักใจ กับ heygoody ได้เลย!
ที่มา : KTC