
เมื่อกระเป๋าเดินทางไม่โผล่มาบนสายพานรับกระเป๋า ความตื่นเต้นหลังลงจากเครื่องก็อาจถูกแทนที่ด้วยความกังวลทันที หลายคนอาจเผลอคิดไปไกลว่า กระเป๋าเดินทางหายแน่ ๆ แต่จริง ๆ แล้วเหตุการณ์แบบนี้มักเป็นเพียงการล่าช้า ซึ่งสามารถจัดการได้ไม่ยาก heygoody จะพาเหล่ากู๊ดดี้ไปดูวิธีรับมือและขั้นตอนเคลมกระเป๋าเดินทางล่าช้าแบบละเอียด เพื่อให้ทริปยังสนุกต่อได้แบบไม่สะดุด
ก่อนจะไปดูขั้นตอนเคลมกระเป๋าเดินทางล่าช้า มาดูสาเหตุที่ทำให้กระเป๋าเดินทางของเรามาถึงช้า ซึ่งมีตามนี้เลย

เมื่อแน่ใจแล้วว่ากระเป๋าเดินทางของเราไม่ได้มาถึงพร้อมกัน ให้เหล่ากู๊ดดี้ดำเนินการตามขั้นตอนเหล่านี้ได้เลย
สิ่งแรกที่ต้องทำ คือเดินไปที่เคาน์เตอร์บริการสัมภาระของสายการบินที่เดินทางมา ซึ่งโดยทั่วไปจะตั้งอยู่ในบริเวณโถงรับกระเป๋าเดินทางนั่นเอง พยายามอย่าเพิ่งเดินออกจากพื้นที่ดังกล่าว เพราะการแจ้งเรื่องทันที ณ ที่เกิดเหตุจะทำให้กระบวนการติดตามเป็นไปอย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากที่สุด โดยเตรียมหนังสือเดินทางและ Boarding Pass ให้พร้อมเพื่อแสดงต่อเจ้าหน้าที่
เจ้าหน้าที่จะให้กรอกแบบฟอร์ม Property Irregularity Report (PIR) เหล่ากู๊ดดี้จะต้องให้รายละเอียดข้อมูลต่าง ๆ เช่น หนังสือเดินทาง Boarding Pass หมายเลขแท็กของกระเป๋าสัมภาระ ยี่ห้อกระเป๋า สี ขนาด รูปทรง และตำหนิพิเศษต่าง ๆ พร้อมทั้งแจ้งที่อยู่และเบอร์โทรศัพท์ติดต่อที่ประเทศนั้น ๆ เพื่อให้สายการบินสามารถจัดส่งกระเป๋าตามไปให้ได้
จากนั้นจะได้รับสำเนาแบบฟอร์มติดตามสัมภาระ (PIR) และหมายเลขอ้างอิงการติดตามสัมภาระ ซึ่งเป็นหลักฐานชิ้นสำคัญ เพราะต้องใช้ในทุกขั้นตอนไม่ว่าจะเป็นการติดตามสถานะ ยื่นเคลมกระเป๋าเดินทางล่าช้า หรือแม้แต่ในกรณีที่แย่ที่สุดอย่างกระเป๋าหายก็ตาม
รวบรวมเอกสารทุกอย่างที่เกี่ยวข้องกับการเดินทางครั้งนี้ไว้ ไม่ว่าจะเป็น สำเนาแบบฟอร์มติดตามสัมภาระ Boarding Pass และใบเสร็จทุกใบจากการซื้อของใช้จำเป็นระหว่างที่ยังไม่ได้กระเป๋าคืน เช่น เสื้อผ้า แปรงสีฟัน หรือของใช้ส่วนตัวอื่น ๆ เพราะเอกสารเหล่านี้คือหลักฐานทั้งหมดที่เราต้องใช้ในการยื่นเรื่องขอรับเงินชดเชย
โดยปกติแล้ว เมื่อสายการบินพบกระเป๋าของเราและส่งมาถึงสนามบินปลายทางแล้ว สายการบินมีหน้าที่รับผิดชอบในการนำส่งกระเป๋าเดินทางใบนั้นไปยังที่พักของเรา ไม่ว่าจะเป็นโรงแรมหรือบ้านพัก ตามที่อยู่ที่เราได้แจ้งไว้ในแบบฟอร์ม PIR โดยเหล่ากู๊ดดี้สามารถใช้หมายเลขอ้างอิงการติดตามสัมภาระ เพื่อติดตามสถานะการค้นหาและจัดส่งผ่านทางเว็บไซต์ของสายการบินได้

เมื่อกระเป๋าเดินทางดีเลย์เกินกว่าที่กำหนดและเราจำเป็นต้องซื้อของใช้จำเป็น การมีประกันการเดินทางต่างประเทศจะช่วยแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่ายส่วนนี้ได้เป็นอย่างดี
ก่อนอื่นให้เปิดกรมธรรม์ประกันการเดินทางขึ้นมาอ่านรายละเอียดให้ชัดเจน โดยต้องดู "ระยะเวลาความล่าช้าขั้นต่ำ" ที่ประกันจะเริ่มให้ความคุ้มครอง ซึ่งแต่ละแผนประกันจะกำหนดไว้ไม่เท่ากัน เช่น ต้องล่าช้าต่อเนื่องเกิน 6 ชั่วโมง 8 ชั่วโมง หรือ 12 ชั่วโมงขึ้นไป จึงจะสามารถเริ่มกระบวนการเคลมกระเป๋าเดินทางล่าช้าได้ รวมถึงตรวจสอบวงเงินชดเชยสูงสุดที่สามารถเบิกได้ด้วย
รวบรวมเอกสารทั้งหมด เพื่อใช้ยื่นประกอบการเคลมกับบริษัทประกัน ซึ่งโดยทั่วไปแล้วจะประกอบด้วยเอกสารหลัก ๆ ดังนี้
เมื่อเตรียมเอกสารครบถ้วนแล้ว ให้ยื่นเรื่องเคลมกับบริษัทประกันตามช่องทางที่กำหนด ซึ่งปัจจุบันส่วนใหญ่สามารถยื่นผ่านระบบออนไลน์ได้แล้ว หลังจากยื่นเรื่องเรียบร้อย บริษัทประกันจะใช้เวลาในการพิจารณาเอกสารและอนุมัติค่าสินไหมทดแทน ซึ่งโดยทั่วไปจะใช้เวลาประมาณ 7-14 วันทำการ ก็จะได้รับเงินชดเชยโอนเข้าบัญชีตามที่ได้แจ้งไว้
ไม่มีใครอยากเจอสถานการณ์กระเป๋าเดินทางล่าช้า แต่จริง ๆ แล้วเหล่ากู๊ดดี้สามารถลดความเสี่ยงได้ตั้งแต่ก่อนขึ้นเครื่อง ลองเช็คทริคเหล่านี้ไว้ก่อนออกเดินทางเลย
นอกจากนี้ แนะนำให้เหล่ากู๊ดดี้เตรียมตัวให้พร้อมเผื่อเกิดเหตุฉุกเฉิน ตามนี้เลย
ถึงกระเป๋าจะมาช้าแต่ถ้ารู้วิธีรับมือที่ถูกต้อง เรื่องป่วน ๆ ก็จะกลายเป็นแค่เรื่องจิ๊บ ๆ ที่หยุดความสนุกในทริปไม่ได้ และเพื่อให้ทุกทริปของเหล่ากู๊ดดี้เต็มไปด้วยความสบายใจ heygoody ได้รวมแผนประกันการเดินทางต่างประเทศที่คุ้มครองครบครันจากบริษัทชั้นนำมาให้เลือกเปรียบเทียบง่าย ๆ ในเว็บเดียว พร้อมส่วนลดจัดเต็ม ที่หาที่ไหนไม่ได้อีกแล้ว ครอบคลุมทุกเรื่องน่ากวนใจ ทั้งเคลมกระเป๋าเดินทางล่าช้า กระเป๋าหาย ไฟลต์ล่าช้า หรือเจ็บป่วยฉุกเฉิน ซื้อออนไลน์ง่าย ๆ ได้ตลอด 24 ชั่วโมง เข้ามาเปรียบเทียบและเลือกแผนที่ใช่ในราคาสุดคุ้มได้เลย
ที่มา : baggage-luggage และการบินไทย
























