ปรับใหม่! 5 นิสัยที่ช่วยลดน้ำหนัก ทำช่วงเช้าแล้วสุขภาพดี

"สุขภาพดีเริ่มต้นได้ที่ตัวเรา" วลีเด็ดที่หลาย ๆ คนน่าจะเคยได้ยินผ่านหูกันมาบ้าง ซึ่งการเริ่มต้นดูแลตัวเองสามารถทำได้ด้วยการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิต วันนี้ heygoody เลยอยากจะมาแชร์นิสัยที่ช่วยลดน้ำหนักสำหรับปรับกิจกรรมในช่วงเช้า ที่บอกได้เลยว่านอกจากจะช่วยให้มีสุขภาพที่ดีแล้ว ยังได้รูปร่างที่ฟิตแอนด์เฟิร์มเป็นของแถมอีกด้วย

1. ดื่มน้ำหลังตื่นนอนทันที

เหล่ากู๊ดดี้ที่อยากดูแลรูปร่างและสุขภาพ สิ่งแรกที่ควรปรับคือเรื่องของพฤติกรรมหลังตื่นนอน หากใครที่รู้ตัวว่า หลังตื่นนอนยังโอ้เอ้และมัวแต่เล่นโทรศัพท์ หรือขอต่อเวลาอีกสักห้านาที ต้องรีบเปลี่ยนโดยด่วน โดยสิ่งที่เราควรทำเป็นอย่างแรกหลังจากตื่นขึ้นมาก็คือ การดื่มน้ำสะอาดสักแก้ว เพราะน้ำจะช่วยให้ร่างกายของคุณเข้าสู่กระบวนการเผาผลาญและส่งผลต่อการลดน้ำหนักได้ 

เพราะเมื่อเราดื่มน้ำเข้าไป น้ำเปล่าจะเข้าไปช่วยขยายผนังลำไส้ให้ยืดตัว ทำให้กากอาหารเคลื่อนที่และพร้อมที่จะขับถ่าย ซึ่งจะส่งผลต่อระบบเผาผลาญให้ทำงานได้ดีขึ้น เรียกได้เหมาะกับคนที่มีปัญหาท้องผูก ท้องแข็ง และอยากลดไขมันในร่างกายแบบสุด ๆ 

นอกจากนี้ สำหรับคนที่อยากลดน้ำหนักแต่ยังติดเมนูคาเฟอีน ก็ไม่ต้องกังวลไป เพราะเรายังสามารถดื่มกาแฟตอนเช้าได้เหมือนเดิม แต่อาจลดความอ้วนด้วยการดื่มกาแฟดำแบบไม่ใส่น้ำตาลแทน ที่สำคัญกาแฟดำยังมีส่วนช่วยเผาผลาญไขมัน แถมยังช่วยลดอาการอยากกินจุกจิกระหว่างวันได้อีกด้วยนะ

2. โยคะ 30 นาที อัปสกิลการเผาผลาญไขมัน

หลังจากดื่มน้ำกระตุ้นกระบวนการเผาผลาญไปแล้ว อย่าลืมหากิจกรรมที่จะช่วยให้ร่างกายได้เคลื่อนไหวพร้อมกระตุ้นเอนเนอร์จี้ต่อกันด้วย ซึ่งการเล่นโยคะยามเช้าประมาณ 30 นาที ก็เป็นอีกหนึ่งวิธีที่มีประโยชน์ต่อร่างกายของเราอย่างมากโดยเฉพาะคนที่อยากลดความอ้วนถาวร แต่ยังไม่สามารถออกกำลังกายหนัก ๆ ได้ การเล่นโยคะถือว่าตอบโจทย์ เพราะนอกจากจะช่วยให้ร่างกายเผาผลาญแล้ว ยังเป็นการออกกำลังกายที่เน้นการยืดตัว พร้อมได้ฝึกสมาธิ จึงช่วยให้เราเริ่มต้นเช้าวันใหม่ได้อย่างสดใส

3. จัดมื้อเช้าแบบ High Protein

สำหรับเหล่ากู๊ดดี้ที่มีปัญหาหิวจุกจิกระหว่างวัน ลองสำรวจตัวเองดูก่อนว่ามีพฤติกรรมงดอาหารเช้าอยู่หรือเปล่า ถ้าคำตอบคือใช่ อาจต้องมาปรับเปลี่ยนกันหน่อย  

เพราะมื้อเช้าเป็นมื้อที่สำคัญ ยิ่งถ้ากินอาหารที่มี High Protein ก็จะช่วยยับยั้งการหลั่ง “เกรลิน” ซึ่งเป็นฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความหิว อีกทั้งยังช่วยเสริมสร้างกล้ามเนื้อและทำให้ระบบเผาผลาญทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น เรียกได้ว่าแค่ปรับพฤติกรรมเรื่องอาหารเช้าก็จะช่วยลดความอ้วนถาวรได้แล้ว 

4. ออกกำลังกายแบบ HIIT เร่งการเผาผลาญ

สำหรับใครที่เบื่อโยคะแล้ว และอยากลองเปลี่ยนมาออกกำลังกายที่หนักขึ้น ขอแนะนำการออกกำลังกายแบบ High-Intensity Interval Training (HIIT) ที่สามารถทำได้ในช่วงเช้า โดย HIIT จะเป็นวิธีการออกกำลังกายที่มีความเข้มข้นสูงในระยะเวลาสั้น ๆ สลับกับการพัก นับว่าเป็นรูปแบบการออกกำลังกายที่ช่วยเผาผลาญพลังงานได้ดีมาก ๆ เหมาะกับคนที่อยากลดไขมันและสร้างกล้ามเนื้อให้หุ่นเฟิร์มแบบสุด ๆ

5. ออกไปรับแสงแดดในช่วงเช้า เติมวิตามิน D

ปิดท้ายด้วยกิจกรรมที่จะทำให้เรารู้สึกสดชื่นรับยามเช้า อย่างการตื่นไปรับแสงแดดในช่วงเวลา 06.00-08.00 น. ประมาณ 15-30 นาทีต่อวัน เพื่อให้ร่างกายได้สังเคราะห์วิตามิน D ให้เพียงพอต่อความต้องการของร่างกาย อีกทั้งวิตามิน D ยังจะช่วยยังยั้งการก่อเกิดเซลล์ไขมัน และป้องกันการอุดตันในเส้นเลือดได้ 

นอกจากนี้ วิตามินดียังช่วยเสริมระดับของเซอโรโทนิน ที่มีส่วนในการควบคุมความอยากอาหารและเพิ่มความอิ่ม ใครที่อยากลดความอ้วนถาวร อย่าลืมออกไปรับแดดยามเช้ากันเป็นประจำด้วย ปรับนิสัยที่ช่วยลดน้ำหนัก พร้อมทำให้มีสุขภาพแข็งแรงกันแล้ว แต่หากใครยังรู้สึกไม่อุ่นใจกับสภาพร่างกาย ให้นึกถึง heygoody ได้เลย! เพราะเราเป็นโบรกเกอร์ประกันออนไลน์เลือดใหม่ที่ใช้งานง่าย จะเปรียบเทียบแผนประกัน ราคา และความคุ้มครองก็ทำได้อย่างสะดวก อยากทำประกันสุขภาพ หรือแผนประกันแบบไหนก็มีให้เลือกครบ แถมจ่ายเงินได้หลากหลายช่องทาง อุ่นใจได้ว่าเรา Standby พร้อมดูแล แต่ไม่ตอแยคุณ ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้เลย!

ที่มา: การดื่มน้ำเปล่า มีประโยชน์มากกว่าที่เราคิด, ประโยชน์ของการ "ดื่มน้ำ" ตอนเช้า, ข้อดีของการเล่น โยคะ ตอนเช้าหลังตื่นนอน, “เกรลิน” ฮอร์โมนที่ทำให้เกิดความหิว, ออกกำลังกายแบบ HIIT, วิตามิน D สามารถช่วยให้เราลดน้ำหนักได้จริงหรือ?