งาน World Expo 2025 ที่โอซาก้ามาถึงแล้ว! เทศกาลยิ่งใหญ่ระดับโลกที่รวบรวมนวัตกรรม เทคโนโลยี และวัฒนธรรมจากทั่วทุกมุมโลกมาไว้ในที่เดียว เหล่ากู๊ดดี้ที่กำลังวางแผนเที่ยวญี่ปุ่นช่วง Osaka Expo 2025 เตรียมตัวให้พร้อม บทความนี้จะพาไปรู้จักกับงาน Osaka Expo ให้มากขึ้น ทั้งราคาตั๋ว สถานที่จัดงาน วิธีเดินทาง รวมถึงไฮไลต์เด็ด ๆ ที่ห้ามพลาดในงานนี้
World Expo 2025 เป็นงานแสดงนวัตกรรมและวัฒนธรรมระดับนานาชาติที่จัดขึ้นทุก 5 ปี โดยจัดเป็นอันดับสามของงานใหญ่ระดับโลก รองจากโอลิมปิกและฟุตบอลโลก โดยมีจุดประสงค์เพื่อเป็นเวทีให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้นำเสนอความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี นวัตกรรม วัฒนธรรม และแนวคิดที่สำคัญต่ออนาคตของมนุษยชาติ
สำหรับในปี 2025 นี้ World Expo จัดขึ้นที่โอซาก้า ประเทศญี่ปุ่น ถือเป็นครั้งที่ 3 ที่ญี่ปุ่นได้รับเกียรติเป็นเจ้าภาพ หลังจากที่เคยสร้างความประทับใจมาแล้วกับงาน Expo 2005 ที่ไอจิ และ Expo 1970 ที่โอซาก้าเช่นกัน โดย Osaka Expo 2025 จัดขึ้นภายใต้ธีมหลัก "Designing Future Society for Our Lives" หรือ "ออกแบบสังคมแห่งอนาคตเพื่อชีวิตของเรา" ซึ่งเน้นการพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต การแก้ปัญหาสังคม และการสร้างสรรค์สังคมที่ยั่งยืน จัดขึ้นระหว่างวันที่ 13 เมษายน - 13 ตุลาคม 2025 รวม 184 วัน คาดว่าจะมีผู้เข้าชมกว่า 28 ล้านคนจากทั่วโลก
งาน World Expo 2025 จะจัดขึ้นที่เกาะยูเมะชิมะ (Yumeshima Island) เป็นพื้นที่ที่รัฐบาลญี่ปุ่นพัฒนาให้เป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและนวัตกรรมแห่งอนาคต ตั้งอยู่ใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวยอดฮิตอย่าง Universal Studios Japan และ Osaka Aquarium ซึ่งสะดวกทั้งการเดินทางและหาที่พัก เหมาะกับการปักหมุดทริปเที่ยวโอซาก้าคู่กับงาน Expo ไปในตัวเลย
เหล่ากู๊ดดี้ที่สนใจเข้าชมงาน Osaka Expo 2025 สามารถเลือกซื้อตั๋วได้หลายแบบ ดังนี้
ประเภทตั๋ว | รายละเอียด | ผู้ใหญ่(18 ปีขึ้นไป) | เด็ก(12-17 ปี) | เด็กเล็ก(4-11 ปี) |
ตั๋ว 1 วัน (One-Day Ticket) | เข้าได้ครั้งเดียวในช่วงระยะเวลาการจัดงาน | ¥7,500 | ¥4,200 | ¥1,800 |
ตั๋ววันธรรมดา (Weekday Ticket) | เข้าได้หนึ่งครั้งหลัง 11.00 น. ในวันธรรมดายกเว้นวันเสาร์ อาทิตย์ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ | ¥6,000 | ¥3,500 | ¥1,500 |
ตั๋วรอบค่ำ (Night Ticket) | เข้าได้ 1 ครั้งหลัง 17.00 น. ตลอดช่วงการจัดงาน | ¥3,700 | ¥2,000 | ¥1,000 |
ตั๋วส่วนลดพิเศษ | ||||
ตั๋วส่วนลดพิเศษ | ผู้ที่มีใบรับรองความทุพพลภาพ ฯลฯ รวมถึงผู้ติดตาม 1 คนสามารถซื้อได้เข้าได้ 1 คน/1 ครั้งในตลอดช่วงการจัดงาน | ¥3,700 | ¥2,000 | ¥1,000 |
บัตรผ่านเข้าได้หลายครั้ง | ||||
บัตรผ่านเข้าได้ตลอดช่วงการจัดงาน (Season Pass) | 2025/4/13 - 10/3เข้าได้หลายครั้งหลัง 11.00 น. ทุกวัน※ไม่สามารถเข้างานได้นับจาก 10/4 | ¥30,000 | ¥17,000 | ¥7,000 |
บัตรผ่านฤดูร้อน (Summer Pass) | 2025/7/19 - 8/31เข้าได้หลายครั้งหลัง 11.00 น. ทุกวัน | ¥12,000 | ¥7,000 | ¥3,000 |
หมายเหตุ :
การเดินทางไปยัง Osaka Expo 2025 ที่เกาะยูเมะชิมะมีหลายทางเลือก ตามนี้เลย
ในงาน World Expo 2025 จะมีพาวิลเลียน หรืออาคารแสดงผลงานจากประเทศต่าง ๆ มากกว่า 150 ประเทศ โดยแต่ละประเทศจะออกแบบพาวิลเลียนให้สะท้อนถึงวัฒนธรรม นวัตกรรม และแนวคิดของประเทศนั้น ๆ มาดูกันว่าพาวิลเลียนไหนที่เหล่ากู๊ดดี้ไม่ควรพลาด!
พาวิลเลียนของประเทศเจ้าภาพมาในธีม "Between Lives" ออกแบบโดยบริษัท Nikken Sekkei จากโตเกียว ร่วมกับ Oki Sato สถาปนิกจากสตูดิโอ nendo เป็นอาคารทรงวงกลมที่สร้างจากไม้ระแนงรีไซเคิล สื่อถึง "วัฏจักรแห่งชีวิต" ภายในนำเสนอเทคโนโลยีรีไซเคิลคาร์บอนล้ำสมัยของญี่ปุ่น และการผลิตพลังงานก๊าซชีวภาพจากขยะอาหารภายในงาน Osaka Expo เพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้ผู้ชมเห็นความสำคัญของวงจรชีวิตแบบยั่งยืน
พาวิลเลียนของบ้านเรามาในชื่อ "ภูมิพิมาน ดินแดนแห่งภูมิคุ้มกัน" ออกแบบโดย A49 ได้รับแรงบันดาลใจจากแนวคิด "รอยยิ้ม" และองค์ประกอบทางสถาปัตยกรรมไทยโบราณ เช่น หลังคาทรง "จอมแห" ลายจักสาน และการย่อมุมไม้ ภายในมีการนำเสนอความเป็นเลิศของประเทศไทยใน 5 ด้าน ได้แก่ การแพทย์แผนไทย สมุนไพรและอาหารเพื่อสุขภาพ นวดแผนไทย การแพทย์สมัยใหม่ และการท่องเที่ยวเชิงสุขภาพ เน้นย้ำแนวคิดที่ว่าประเทศไทยเป็นดินแดนที่อุดมสมบูรณ์และพร้อมแบ่งปันภูมิปัญญาสู่โลก
พาวิลเลียนของฮังการีสร้างความเชื่อมโยงระหว่างอดีตและอนาคตผ่านรากฐานทางวัฒนธรรม โดยเฉพาะดนตรีพื้นบ้านซึ่งเป็นแก่นแท้ของวัฒนธรรมฮังการี ตัวอาคารมีภูมิทัศน์คล้ายทุ่งหญ้าฮังการีและโครงสร้างป่าไม้ที่เป็นเอกลักษณ์ มีโดมไม้ขนาดใหญ่เป็นที่ตั้งของโรงละคร ชั้นสองของพาวิลเลียนใช้เป็นพื้นที่สำหรับการประชุมและสร้างเครือข่ายทางธุรกิจและวัฒนธรรม
พาวิลเลียนสหรัฐอเมริกามาในชื่อ "Imagine What We Can Create Together" ออกแบบโดย Trahan Architects เป็นอาคารที่มีโครงสร้างโดดเด่นประกอบด้วยอาคารสองหลังทรงสามเหลี่ยมที่มีผนังไม้ และลูกบาศก์ที่ลอยอยู่เหนือกลางอาคาร สื่อถึงความคิดสร้างสรรค์และนวัตกรรม ภายในมีงานจัดแสดงที่เน้นความเป็นเลิศของอเมริกาในด้านเทคโนโลยี การสำรวจอวกาศ AI ศิลปะและดนตรี รวมถึงการเป็นผู้นำด้านความยั่งยืนและการประกอบการ
พาวิลเลียนคูเวตถูกออกแบบโดย LAVA (Laboratory for Visionary Architecture) มีลักษณะเด่นคือหลังคาโค้งยาวคล้ายปีกนกที่ทำหน้าที่เป็นทางเข้าสู่ "Visionary Lighthouse" ภายในมีนิทรรศการแบบอิมเมอร์ซีฟที่เล่าเรื่องราวของคูเวตตั้งแต่อดีตถึงอนาคต
พาวิลเลียนบาห์เรนถูกออกแบบโดย Lina Ghotmeh สถาปนิกชาวเลบานอน ภายใต้แนวคิด "Al Bahrain" หรือ "ทะเลสองแห่งของบาห์เรน" สื่อถึงผืนน้ำเค็มที่โอบล้อมเกาะน้อยใหญ่ และสายน้ำจืดที่ไหลรินอยู่ใต้ผืนน้ำตื้น ตัวอาคารมีโครงสร้างไม้ จำลองมาจากเรือดาว (dhow) แบบดั้งเดิมที่ใช้ในการค้าขายตามแนวชายฝั่งอาระเบียตะวันออกและแอฟริกาตะวันออก
พาวิลเลียนเนเธอร์แลนด์ออกแบบโดย RAU Architects ภายใต้แนวคิด “ผืนแผ่นดินเดียวกัน” โดยตั้งใจให้เป็นพื้นที่เปิดที่ทุกคนสามารถเข้ามาแลกเปลี่ยน เรียนรู้ และจุดประกายซึ่งกันและกัน ตัวอาคารสื่อถึง “ดวงอาทิตย์ที่สร้างโดยมนุษย์” เป็นภาพแทนของรุ่งอรุณใหม่ ที่ขับเคลื่อนด้วยความร่วมมือและพลังงานสะอาดอย่างไร้ขีดจำกัด เพื่อสร้างอนาคตที่ทุกคนเข้าถึงได้ พร้อมส่งเสริมสังคมที่เข้มแข็งและเปี่ยมสุขผ่านการลงมือทำร่วมกัน
พาวิลเลียนของแคนาดานำเสนอแนวคิด “Regeneration” ซึ่งได้แรงบันดาลใจจากการละลายของน้ำแข็งช่วงฤดูใบไม้ผลิ ตัวอาคารถูกออกแบบให้ถ่ายทอดความอบอุ่นและความหวัง สะท้อนภาพธรรมชาติที่เปลี่ยนแปลงและฟื้นฟูตัวเอง เหล่ากู๊ดดี้จะได้สัมผัสประสบการณ์ที่กระตุ้นให้ตระหนักถึงความยั่งยืนและการใช้พลังงานสะอาดในอนาคต
พาวิลเลียนสวิตเซอร์แลนด์ ออกแบบโดย Manuel Herz Architekten นำเสนอแนวคิด “อาคารที่ผสานรวมกับธรรมชาติ” ตัวอาคารเป็นรูปทรงกลมน้ำหนักเบาถูกรายล้อมด้วยพันธุ์ไม้และห่อหุ้มด้วยวัสดุพลาสติกโปร่งแสงคล้ายฟอยล์ ซึ่งจะถูกรีไซเคิลเป็นเฟอร์นิเจอร์หลังจบงาน
พาวิลเลียนซาอุดีอาระเบีย ออกแบบโดย Foster + Partners โดยได้รับแรงบันดาลใจจากหมู่บ้านดั้งเดิมในราชอาณาจักร อาคารประกอบด้วยกลุ่มอาคารทรงเหลี่ยมและลานกลางแจ้งที่ปลูกต้นไม้ให้ร่มรื่น พร้อมระบบภาพและเสียงที่ร่วมมือกับ 59 Productions และ Squint/Opera สร้างประสบการณ์การเดินทางผ่านเวลา ตั้งแต่มรดกทางวัฒนธรรมที่หยั่งรากลึก ไปจนถึงวิสัยทัศน์ของประเทศสู่อนาคตที่ยั่งยืนและล้ำสมัย
Osaka World Expo 2025 ไม่ใช่แค่งานแสดงระดับโลกธรรมดา แต่คืองานที่เปิดโลกทัศน์ให้เหล่ากู๊ดดี้ได้สัมผัสอนาคตแบบรอบด้าน ทั้งนวัตกรรม พลังงานสะอาด การออกแบบเพื่อความยั่งยืน รวมถึงศิลปะและวัฒนธรรมร่วมสมัยจากทุกมุมโลก ขอบอกว่า พาวิลเลียนข้างต้นเป็นแค่น้ำจิ้มเท่านั้น! ยังมีอีกหลายประเทศรอให้เหล่ากู๊ดดี้ไปเช็คอินแบบจุก ๆ
แพลนบินไปสนุกที่โอซาก้าแล้ว อย่าลืมเสริมความอุ่นใจด้วยประกันเดินทางต่างประเทศจาก heygoody ที่คุ้มครองครอบคลุมทั้งเจ็บป่วย อุบัติเหตุ เที่ยวบินล่าช้า หรือแม้แต่กระเป๋าหาย ซื้อง่าย เคลมไว ราคาสบายกระเป๋า พร้อมส่วนลดจัดเต็มสำหรับเหล่ากู๊ดดี้เท่านั้น! เที่ยวญี่ปุ่นทริปนี้ให้เต็มที่ ไร้กังวล เพราะมี heygoody คอยดูแล
ที่มา : expo 2025 และ COMPAX WORLD