หลายคนชอบเที่ยวแบบ Backpacker เพราะมีความเป็นส่วนตัว สามารถจำกัดงบแบบประหยัด แค่แบกเป้ใบเดียวก็ออกท่องเที่ยวไปทั่วโลกได้ แต่การไปเที่ยวถึงต่างแดน ก็มีความเสี่ยงแฝงอยู่เสมอ ดังนั้น ประกันการเดินทาง จึงเป็นสิ่งที่ชาว Backpacker ทุกคนควรมีติดตัวไว้ แต่จะเลือกประกันเดินทางแบบไหนดี? วันนี้ heygoody จะมาแนะนำวิธีเทียบประกันเดินทาง เพื่อเลือกซื้อให้ตอบโจทย์สไตล์การเที่ยวแบบ Backpack ที่สุด
เหตุผลที่คนชอบเที่ยวต่างประเทศต้องมีประกันการเดินทาง เพราะ
มัดรวม 7 วิธีเทียบประกันเดินทางให้คุ้ม จะมีอะไรบ้าง ตามไปดูพร้อมกัน
อันดับแรกต้องเปรียบเทียบประกันเดินทางรายปี กับ รายเที่ยวก่อน ถ้าเที่ยวบ่อย เอะอะแพ็กกระเป๋าเที่ยว แนะนำประกันเดินทางแบบรายปี เบี้ยประกันจะคุ้มกว่าแบบรายเที่ยว แถมไม่ต้องมาเลือกซื้อใหม่บ่อย ๆ แต่ถ้าไม่ได้บินเยอะ นาน ๆ เที่ยวที สามารถซื้อแบบรายเที่ยวได้
เบี้ยประกันที่คุ้มค่าต้องมาพร้อมความคุ้มครองที่ครอบคลุม ซึ่งเบี้ยประกันแต่ละบริษัท แต่ละแผนก็ไม่เท่ากัน เวลาเปรียบเทียบเบี้ยประกันให้คำนึงถึงระยะเวลาการเดินทาง ประเทศปลายทาง และความคุ้มครองที่ต้องการ เพื่อหาแผนที่มีความคุ้มครองสูง และค่าเบี้ยที่เหมาะสมกับงบประมาณเรา
ดูวงเงินความคุ้มครองว่า เงินค่ารักษาพยาบาลสูงสุดเท่าไหร่? ถ้าเกิดความเสียหาย เช่น กระเป๋าหาย ทรัพย์สินถูกขโมย จำนวนเงินชดเชยสูงสุดกี่บาท? ตรงนี้สำคัญมาก เพราะถ้าเลือกวงเงินประกันน้อยเกินไป อาจไม่เพียงพอต่อค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นจริง สุดท้ายต้องควักกระเป๋าจ่ายเองแบบนี้ไม่คุ้มแน่ heygoody แนะนำให้เลือกแผนประกันที่คุ้มครองสูงสุดหลักล้านขึ้นไป
ก่อนตัดสินใจซื้อ ต้องตรวจสอบความคุ้มครองทั้งหมด ประกันเดินทางที่ดี ต้องคุ้มครองครอบคลุมกรณีฉุกเฉินพื้นฐานที่อาจเกิดขึ้นระหว่างที่เราอยู่ต่างประเทศ ได้แก่
ค่ารักษาพยาบาลที่ต่างประเทศสูงกว่าที่ไทยมาก ถ้าป่วยหนักจนถึงขั้นล้มหมอนนอนเสื่อแล้วไม่มีประกันเดินทางล่ะก็ กระเป๋าตังค์เบาแน่นอน แต่เห็นคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลแล้วอย่าเพิ่งวางใจ ต้องเช็ครายละเอียดให้ชัวร์ว่า คุ้มครองรายการรักษาอะไรบ้าง? วงเงินค่ารักษาพยาบาลต่อครั้ง และต่อปีกี่บาท? คุ้มครองค่าห้องและค่าอาหารในโรงพยาบาลรึเปล่า? จะได้หมดห่วงเรื่องค่าใช้จ่าย 100%
นอกจากเรื่องเจ็บไข้ได้ป่วยแล้ว ประกันเดินทางควรมีค่าสินไหมทดแทนกรณีเสียชีวิต สูญเสียอวัยวะ หรือทุพพลภาพด้วย แม้จะเป็นเรื่องที่ไม่มีใครอยากให้เกิด แต่ถ้าเกิดขึ้นแล้ว อย่างน้อยผู้เอาประกันอย่างเรา ๆ ต้องได้รับความคุ้มครองที่คุ้มค่าที่สุด
ประกันเดินทางควรครอบคลุมไปถึงการเคลื่อนย้ายเพื่อการรักษาพยาบาลฉุกเฉินและการเคลื่อนย้ายกลับประเทศไทยหรือประเทศภูมิลำเนาด้วย เพราะค่าใช้จ่ายในการเคลื่อนย้ายสูงมาก ถ้ามีประกันคอยจัดการให้ รับรองว่า อุ่นใจขึ้นเยอะ!
ไม่อยากเฟล เพราะกระเป๋าล่าช้า ทรัพย์สินส่วนตัวเสียหาย หรือสูญหาย ควรซื้อประกันท่องเที่ยวที่คุ้มครองกรณีสัมภาระและทรัพย์สินสูญหาย เสียหาย หรือถูกขโมยด้วย
คงไม่มีอะไรเซ็งไปกว่าเที่ยวบินดีเลย์ ถูกเลื่อน หรือถูกยกเลิกกะทันหัน ดังนั้น เหล่ากู๊ดดี้ต้องเลือกประกันเดินทางที่ซัพพอร์ตเราเรื่องเที่ยวบินด้วย แม้ตารางเที่ยวไม่ตรงตามที่ตั้งใจไว้ แต่อย่างน้อยก็ได้ค่าเสียเวลาอย่างเต็มที่
ไปเที่ยวแบบ Backpack ที่ประเทศไหน ก็อย่าลืมเช็คโรงพยาบาลในเครือของประกันเดินทางด้วยว่า มีที่ไหนบ้าง? มีเครื่องมือ สิ่งอำนวยความสะดวกพร้อมมั้ย? ถึงเวลาเจ็บป่วยขึ้นมาจะได้ใช้บริการได้แบบสบายใจ
ควรเลือกประกันที่มีบริการหลังการขายที่ดี ติดต่อสะดวก เคลมง่าย รวดเร็ว ถ้ามีเหตุฉุกเฉินเกิดขึ้นจริง ๆ สามารถติดต่อได้ทันที หรือตลอด 24 ชม. จะช่วยเพิ่มความอุ่นใจขั้นสุด เหมือนมีเพื่อนซี้เคียงข้างตลอดเวลา
สุดท้ายต้องไม่ลืมตรวจสอบเงื่อนไขการเบิกสินไหมทดแทนให้ละเอียด ทั้งข้อยกเว้นที่ไม่คุ้มครอง การสำรองจ่าย เอกสารที่ต้องใช้ ขั้นตอนการเคลม รวมไปถึงระยะเวลารอค่าสินไหมทดแทน เพื่อป้องกันปัญหาเคลมยาก หรือเคลมไม่ได้
หวังว่า บทความนี้จะช่วยให้สายเที่ยวต่างประเทศแบบ Backpacker เลือกประกันเดินทางที่ตอบโจทย์ได้ จะได้ท่องโลกกว้างแบบสบายใจ หมดห่วงเรื่องเหตุไม่คาดฝัน ถ้ายังไม่รู้จะเลือกประกันเดินทางเจ้าไหนดี ห้ามพลาดแผนประกันเดินทางสุดปังที่ heygoody คัดมาให้ รวบตึงความคุ้มครองมาให้ครบ ในราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อย แต่คุ้มครองสูงสุดถึงหลักล้าน เจ็บป่วยที่ไหนก็ไม่ต้องสำรองจ่าย ดีงามขนาดนี้ รีบเข้าไปเลือกซื้อกันได้เลย!
ที่มา : ธนาคารไทยพาณิชย์