รวมสิ่งต้องรู้เกี่ยวกับ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

เวลาเกิดเหตุรถชนกันบนท้องถนน ไม่ได้เคลมได้เฉพาะค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาลนะรู้ยัง ยังมีอีกเรื่องที่ประกันอาจไม่ได้บอก และหลายคนก็ไม่รู้ นั่นคือ ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ ค่าชดเชยเพิ่มเติมที่เรียกจากคู่กรณี (ฝ่ายผิด) ได้ แล้วเรียกได้เท่าไหร่? มีวิธีเรียกค่าขาดประโยชน์ยังไง? ต้องเตรียมเอกสารอะไรบ้าง? heygoody สรุปมาให้ครบในบทความนี้

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคืออะไร?

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ คือค่าชดเชย หรือค่าสินไหมที่บริษัทประกันภัยของคู่กรณี (ฝ่ายผิด) ต้องชดใช้ให้กับฝ่ายถูก เพื่อใช้เป็นค่าใช้จ่ายในระหว่างที่ไม่สามารถใช้งานรถยนต์ได้ โดยผู้ที่เป็นฝ่ายถูกต้องเรียกร้องด้วยตัวเอง และฝ่ายผิดต้องมีประกันรถยนต์ภาคสมัครใจด้วยนะ ถึงจะเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้

ค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถชดเชยวันละเท่าไหร่

สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) กำหนดอัตราขั้นต่ำของค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ เพื่อไม่ให้บริษัทประกันภัยจ่ายจำนวนต่ำเกินไป ตามนี้เลย

• รถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รวมคนขับ) ได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 500 บาท
• รถยนต์รับจ้างสาธารณะขนาดไม่เกิน 7 ที่นั่ง (รวมคนขับ) ได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 700 บาท
• รถยนต์ขนาดเกิน 7 ที่นั่ง (รวมคนขับ) ได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าวันละ 1,000 บาท
  
  

ถ้าใช้รถจักรยานยนต์ หรือรถประเภทอื่น ๆ ที่ไม่ได้อยู่ใน 3 ข้อข้างต้น ก็ไม่ต้องกังวล เพราะค่าชดเชยจะเป็นไปตามข้อเรียกร้องและตกลงกันได้ โดยพิจารณาหลักฐานเป็นกรณีไปนั่นเอง

ตัวอย่างการคำนวณค่าขาดประโยชน์

ปกติบริษัทประกันส่วนใหญ่ให้ความคุ้มครองค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถในระหว่างซ่อมอยู่ที่ประมาณ 20-30 วัน ดังนั้นเวลาคำนวณก็อ้างอิงตามประเภทรถได้เลย เช่น รถรับจ้างสาธารณะที่นั่งไม่เกิน 7 คน ได้เงินชดเชยวันละ 700 บาท ซ่อม 30 วัน จะได้ค่าชดเชยทั้งหมด 21,000 บาท

แต่ถ้ารถเสียหายหนักมาก ต้องรออะไหล่จัดส่ง หรือต้องใช้เวลาซ่อมนานกว่า 30 วัน สามารถเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ 90 วัน ได้เลย แต่ต้องพิสูจน์ได้ว่า เป็นการสั่งซ่อมจริง

เอกสารที่ต้องเตรียม

เอกสารค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ อาจสอบถามกับบริษัทประกันของคู่กรณีอีกครั้งเพื่อความชัวร์ แต่เบื้องต้นเอกสารที่ต้องเตรียมมีดังนี้

• หนังสือเรียกร้องสินไหมค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถระหว่างซ่อม
• ใบเสนอรายการความเสียหายของรถยนต์
• ใบเคลม หรือใบรองรับความเสียหายต่อทรัพย์สิน
• สำเนาตารางกรมธรรม์ประกันภัยรถยนต์
• สำเนาทะเบียนรถยนต์
• สำเนาใบขับขี่รถยนต์
• สำเนาบัตรประชาชน
• เอกสารนำรถยนต์เข้าซ่อมที่กำหนดวันส่งรถ-รับรถไว้ชัดเจน
• รูปถ่ายตัวรถตอนซ่อม
• รูปถ่ายความเสียหาย
• สำเนาหน้าสมุดบัญชีธนาคารของผู้เอาประกัน
• ใบเสร็จค่าเช่ารถ หรือค่าใช้จ่ายการเดินทางในระหว่างที่ใช้รถไม่ได้ (ถ้ามี)
  
  

ขั้นตอนการเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถ

1. ติดต่อบริษัทประกันของคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิดว่า ต้องการเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถคันที่เสียหาย
2. ส่งเอกสารตามที่บริษัทประกันของคู่กรณีต้องการ
3. รอบริษัทประกันติดต่อกลับ ระหว่างนี้บริษัทประกันของคู่กรณีจะพิจารณาและประเมินเงินชดเชยว่า ต้องชดเชยให้เท่าไหร่ และอาจมีการเจรจาต่อรอง
4. หลังจากเจรจาต่อรองกันลงตัวแล้ว ก็รอรับค่าขาดประโยชน์ประมาณ 7-15 วัน
   
   

ถ้าคู่กรณีไม่มีประกันรถยนต์ควรทำอย่างไร?

ถ้าคู่กรณีฝ่ายผิดไม่มีประกันรถยนต์ ไม่ต้องกังวล เจ้าของรถที่เป็นฝ่ายถูกสามารถเรียกร้องค่าชดเชยจากคู่กรณีโดยตรงได้เลย แต่จะไม่มีอัตราขั้นต่ำตาม คปภ. ว่า คู่กรณีต้องจ่ายเท่าไหร่ แนะนำให้แจ้งความเป็นหลักฐาน และทำหนังสือระบุเป็นลายลักษณ์อักษรให้ชัดเจนว่า คู่กรณีต้องชดใช้ค่าเสียหายเท่าไหร่? ต้องจ่ายภายในระยะเวลาไหน? เพื่อใช้เป็นหลักฐานกรณีโดนเบี้ยว ซึ่งอาจถึงขั้นต้องฟ้องศาลต่อไป

วันขาดประโยชน์ เริ่มนับตั้งแต่ตอนไหน?

เริ่มนับตั้งแต่วันที่นำรถเข้าอู่ซ่อม แม้จะยังไม่เริ่มซ่อมก็ตาม โดยนับรวมทั้งวันเสาร์-อาทิตย์ วันหยุดราชการ และวันหยุดนักขัตฤกษ์ ไปจนถึงวันที่ซ่อมเสร็จ

ชนแบบไม่มีคู่กรณี เรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้มั้ย?

ไม่สามารถเรียกค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถได้ เพราะไม่มีคู่กรณีที่เป็นฝ่ายผิด แต่ถ้าทำประกันรถยนต์ชั้น 1 ไว้ สามารถเคลมค่าซ่อมและค่าเสียหายที่เกิดขึ้นกับบริษัทประกันได้เลย ถือว่าแบ่งเบาค่าใช้จ่ายไปได้เยอะทีเดียว

ซื้อประกันรถยนต์ออนไลน์ พกความอุ่นใจไปทุกเส้นทาง

ไม่อยากเสียสิทธิ์ฟรี ๆ เมื่อเกิดอุบัติเหตุแล้วมั่นใจว่าเป็นฝ่ายถูก เหล่ากู๊ดดี้อย่าลืมเรียกร้องค่าขาดประโยชน์จากการใช้รถกันด้วยนะ เพราะลองคำนวณค่าเดินทางที่ต้องรับผิดชอบเองระหว่างรถส่งซ่อม เชื่อเถอะว่า สูงเอาเรื่อง แต่ถ้าเป็นฝ่ายผิดขึ้นมา แล้วไม่อยากควักกระเป๋าจ่ายเอง แนะนำให้ทำประกันรถยนต์ติดรถเอาไว้ อุ่นใจกว่า สนใจสามารถเช็คเบี้ยประกันจากบริษัทประกันชั้นนำได้ที่เว็บไซต์ heygoody เลย เรารวมมาให้ครบทั้งประกันรถน้ำมัน และประกันรถไฟฟ้า อยากได้ความคุ้มครองแบบไหนเลือกเองได้ ราคาถูกใจ ผ่อนสบาย ๆ 0%

ที่มา : วิริยะประกันภัย