
การใช้รถยนต์ไฟฟ้า หรือรถ EV กำลังปังสุด ๆ แต่สำหรับเหล่ากู๊ดดี้มือใหม่ คำถามคาใจอันดับหนึ่งเลยก็คือ รถไฟฟ้าชาร์จไฟบ้านได้ไหม แล้วถ้าอยากจะชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน ต้องเตรียมตัวอะไรบ้าง จะยุ่งยากหรือเปล่า? บอกเลยว่าเป็นเรื่องที่ง่ายและสะดวกกว่าที่คิดเยอะ วันนี้ heygoody มัดรวมทุกเรื่องที่ต้องรู้เกี่ยวกับการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าบ้าน มาให้แล้ว ตั้งแต่การเช็คมิเตอร์ไฟไปจนถึงขั้นตอนการติดตั้ง ครบจบในที่เดียว
ได้แน่นอน! นี่คือหนึ่งในข้อดีที่สุดของการใช้รถ EV เลยก็ว่าได้ การชาร์จรถไฟฟ้าชาร์จไฟบ้าน นั้นสะดวกสบายเหมือนการชาร์จมือถือ แค่กลับถึงบ้านก็เสียบปลั๊กทิ้งไว้ ตื่นเช้ามาก็ได้แบตเตอรี่เต็มพร้อมลุย ซึ่งวิธีการชาร์จที่บ้านจะแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบหลัก ๆ
วิธีนี้คือการใช้สายชาร์จแบบพกพา (Portable Charger) ที่ผู้ผลิตรถยนต์ส่วนใหญ่แถมมาให้ เสียบเข้ากับเต้ารับหรือปลั๊กไฟบ้านทั่วไปได้เลย แม้จะดูง่ายแต่ก็มีข้อจำกัดคือชาร์จได้ช้ามาก ๆ เพราะเป็นการชาร์จแบบ AC Level 1 ที่จ่ายไฟได้น้อย อาจใช้เวลาชาร์จข้ามวันข้ามคืนกว่าจะเต็ม และไม่แนะนำให้ทำเป็นประจำเนื่องจากอาจสร้างภาระให้กับระบบไฟฟ้าเดิมของบ้านได้
เป็นการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ หรือที่เรียกกันว่า Wallbox ซึ่งจะเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าของบ้านโดยตรง การติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าบ้าน แบบนี้เป็นการชาร์จแบบ AC Level 2 ที่ให้ความเร็วในการชาร์จสูงกว่ามาก สามารถชาร์จแบตเตอรี่ให้เต็มได้ในเวลาเพียง 4-6 ชั่วโมง (ขึ้นอยู่กับรุ่นรถและขนาดเครื่องชาร์จ) ทำให้การใช้งานในชีวิตประจำวันสะดวกสบายสุด ๆ
การมีที่ชาร์จรถไฟฟ้าบ้านส่วนตัว บอกเลยว่ามีแต่ข้อดีปัง ๆ ที่ช่วยให้ชีวิตง่ายขึ้นเยอะ!

ก่อนจะเริ่มติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าบ้าน เหล่ากู๊ดดี้ต้องสำรวจความพร้อมของระบบไฟฟ้าที่บ้านเรากันก่อน เพื่อให้การใช้งานเป็นไปอย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพสูงสุด
บ้านพักอาศัยทั่วไปมักจะใช้มิเตอร์ไฟฟ้าขนาด 15(45)A ซึ่งไม่เพียงพอสำหรับการชาร์จรถ EV ควบคู่ไปกับการใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าอื่น ๆ ในบ้าน สำหรับการชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน จำเป็นต้องใช้มิเตอร์ไฟฟ้าขนาดอย่างน้อย 30(100)A แบบ Single-Phase หรือ 15(45)A แบบ 3-Phase หากมิเตอร์ที่บ้านมีขนาดเล็กกว่านี้ ต้องติดต่อการไฟฟ้าในพื้นที่เพื่อขอเปลี่ยนหรือขอมิเตอร์ลูกที่สองเพิ่ม
เพื่อความปลอดภัยสูงสุดและป้องกันการใช้ไฟเกิน (Overload) ช่างไฟฟ้าจะทำการเดินสายเมนเส้นใหม่โดยเฉพาะสำหรับเครื่องชาร์จ EV ซึ่งจะลากตรงจากมิเตอร์ไฟฟ้ามายังจุดติดตั้ง โดยไม่พ่วงกับระบบไฟฟ้าส่วนอื่น ๆ ของบ้าน ขนาดสายเมนที่แนะนำคือขนาด 25 ตารางมิลลิเมตรขึ้นไป และใช้ลูกเซอร์กิตหรือเบรกเกอร์ลูกย่อย (MCB) สวิตซ์ไฟฟ้าอัตโนมัติที่ถูกออกแบบมาเพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจร
ตู้ควบคุมไฟฟ้าหลักของบ้าน หรือที่เรียกกันว่าตู้เบรกเกอร์ จะต้องมีช่องว่างเหลือ สำหรับติดตั้งเบรกเกอร์ลูกย่อย (MCB) ที่จะใช้ควบคุมวงจรของ EV Charger โดยเฉพาะ หากตู้เดิมไม่มีช่องว่างเหลือแล้ว จำเป็นต้องติดตั้งตู้ควบคุมย่อยเพิ่มเติมอีก 1 จุด
แม้ว่าเครื่องชาร์จ EV Charger ส่วนใหญ่จะมีระบบตัดไฟรั่วในตัวอยู่แล้ว แต่การติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว (RCD) เพิ่มเติมที่ตู้ควบคุมไฟฟ้าจะช่วยเพิ่มความปลอดภัยขึ้นไปอีกชั้น โดย RCD จะทำหน้าที่ตัดวงจรทันทีหากตรวจพบว่ามีกระแสไฟรั่วไหล ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูดและลดความเสี่ยงการเกิดเพลิงไหม้ได้
ติดตั้งเต้ารับสำหรับ EV Charger แบบ 3 รู พร้อมเดินสายดินใหม่ที่แยกจากระบบไฟฟ้าภายในบ้าน โดยสายดินที่ต่อเข้าหลักดินต้องเป็นสายหุ้มฉนวน มีขนาดไม่น้อยกว่า 10 ตารางมิลลิเมตร ส่วนหลักดินควรใช้ขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 16 มิลลิเมตร ความยาวประมาณ 2.4 เมตร และเชื่อมต่อสายดินเข้ากับหลักดินด้วยการใช้ความร้อนเพื่อให้ยึดติดกันอย่างมั่นคง
จุดติดตั้งควรอยู่ในที่ร่ม สามารถกันแดดกันฝนได้ดีเพื่อยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และที่สำคัญคือควรอยู่ใกล้กับจุดที่จอดรถเป็นประจำ โดยมีระยะห่างไม่เกิน 5 เมตร เนื่องจากสายชาร์จส่วนใหญ่จะมีความยาวจำกัด นอกจากนี้ การเลือกตำแหน่งที่อยู่ใกล้กับตู้ควบคุมไฟฟ้าหลักก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเดินสายไฟได้อีกด้วย

ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าบ้าน จะแบ่งออกเป็น 2 ส่วนหลัก ๆ ได้แก่
ประกันรถยนต์ไฟฟ้าหลายเจ้ามีการคุ้มครองอุปกรณ์ชาร์จ (Wall Charger) ที่ติดตั้งที่บ้าน หรือที่พักอาศัย เพราะถือว่าเป็นอุปกรณ์สำคัญที่เกี่ยวข้องกับการใช้งานรถ EV โดยตรง อย่างประกันรถไฟฟ้าธนชาต จะมีความคุ้มครองกรณี Wall Charger เสียหาย โดยให้ความคุ้มครองสูงสุด 50,000 บาทต่อครั้ง ซึ่งถือว่าช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายได้มาก เพราะค่าติดตั้งและซ่อมแซมอุปกรณ์ชาร์จค่อนข้างสูง
อย่างไรก็ตาม ไม่ได้มีความคุ้มครองนี้ทุกแผนประกัน ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเลือกซื้อประกันรถไฟฟ้า เหล่ากู๊ดดี้ควรอ่านรายละเอียดในกรมธรรม์ หรือสอบถามกับ heygoody ได้เลย เพื่อให้ได้รับความคุ้มครองที่ครอบคลุมและตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์การใช้งานรถ EV มากที่สุด
การชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้าน ไม่ใช่เรื่องยุ่งยากเลย แค่เตรียมระบบไฟฟ้าให้พร้อม ก็สามารถเปลี่ยนบ้านให้เป็นสถานีชาร์จส่วนตัวที่สะดวกและประหยัดได้แล้ว และเมื่อมีรถคู่ใจที่พร้อมลุยทุกเส้นทางแล้ว มาเลือกแผนประกันรถยนต์สุดปังให้รถคู่ใจกับ heygoody ได้เลย! เรามัดรวมแผนประกันรถไฟฟ้าจากบริษัทชั้นนำมาให้เลือกครบ พร้อมดีลปัง ๆ ส่วนลดจัดเต็มให้เหล่ากู๊ดดี้ได้เลือกแผนที่ใช่ในราคาสบายกระเป๋า ไม่แน่ใจเรื่องความคุ้มครอง ทักแชทได้ตลอดเวลาที่ Line @heygoody พร้อมช่วยดูแลให้การเลือกแผนประกันของเหล่ากู๊ดดี้ตอบโจทย์ที่สุด!
























