ช่วงสิ้นปียาวไปถึงปีใหม่ เป็นโอกาสดีให้ทุกคนพร้อมออกไปเที่ยวเพื่อสัมผัสบรรยากาศลมหนาว หลังอดทนทำงานเก็บเงินมาหลายเดือน ถึงเวลาออกไปใช้ชีวิตตามจุดหมายปลายทางที่ตั้งใจไว้ ใครกำลังวางแผนหาที่เที่ยวปีใหม่ อยากขึ้นดอย ขึ้นเขา ลงทะเล เที่ยวเขื่อน heygoody ได้รวม 12 โลเคชันสุดคูลตั้งแต่ภาคเหนือยาวไปถึงภาคใต้ ไปดูกันเลยดีกว่า ว่ามีที่ไหนบ้าง
เริ่มที่แรกกับเส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน บนยอดดอยอินทนนท์ จังหวัดเชียงใหม่ ไฮไลต์เด็ดของคือจุดชมวิวทะเลหมอกแบบ 360 องศา ระยะทางประมาณ 3 กิโลเมตรในแนวดิ่ง มีจุดแวะชมธรรมชาติ 21 จุด ใช้เวลาเดินราว ๆ 3-4 ชั่วโมง ถึงแม้ว่าระหว่างทางขึ้นไปข้างบนจะแอบเหนื่อยอยู่ไม่น้อย แต่มีอากาศเย็นจัด พอให้ได้สบายตัว เส้นทางศึกษาธรรมชาติกิ่วแม่ปาน มีค่าเดินเที่ยวคิดเหมาเป็นกลุ่ม 200 บาท ไม่จำกัดจำนวนคนและมีไกด์เป็นชาวบ้านละแวกนั้นคอยนำทางให้ไปจนถึงยอดดอย สายลุยไม่ต้องคิดให้เสียเวลา เตรียมแพ็กกระเป๋ารอได้เลย
นึกถึงหมู่บ้านแนวสโลว์ไลฟ์ต้องแม่กำปอง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นหนึ่งในจุดหมายยอดฮิตของคนไทย เพราะมีอากาศหนาวทั้งปี มาเดือนไหนก็เย็นสบาย พื้นที่หมู่บ้านอยู่ท่ามกลางธรรมชาติ โอบล้อมไปด้วยไม้ยืนต้นสีเขียวขนาดใหญ่ มีน้ำตก ลำธารสวย ๆ คาเฟ่คูล ๆ เต็มไปหมด ใครอยากไปชมวิวทะเลหมอกด้วยต้องแวะ “จุดชมวิวกิ่วฝิ่น” อยู่ในพื้นที่อุทยานแจ้ซ้อน หมู่บ้านเดียวครบจบทุกความชิล จัดทริปอย่างน้อย 1 สัปดาห์เต็มอิ่มแน่นอน
สัมผัสไอหมอกยามเช้ากับทะเลสาบ ปางอุ๋ง จังหวัดแม่ฮ่องสอน ใคร ๆ ต่างยกให้เป็นสวิตเซอร์แลนด์เมืองไทย ด้วยความงามของอ่างเก็บน้ำโอบล้อมไปด้วยทิวสนต้นสูงใหญ่มีอากาศหนาวเย็นตลอดทั้งปี ไฮไลต์เด็ดของปางอุ๋งคือไอหมอกช่วงเวลาก่อนพระอาทิตย์ขึ้นไปจนถึงช่วงสาย ๆ ชมวิวสีเขียวเต็มไปด้วยฝูงหงส์ลอยเหนือน้ำ พร้อมสูดอากาศบริสุทธิ์ได้แบบเต็มปอด
เขยิบลงมาภาคกลางกันหน่อยกับเขาค้อ ภูทับเบิก จังหวัดเพชรบูรณ์ จุดชมทะเลหมอกยอดฮิตของคนกรุงเทพฯ เพราะจุดชมวิวที่นี่มีทะเลหมอกให้ชม ตั้งแต่ฤดูฝนไปจนถึงฤดูหนาว ในระหว่างทางขึ้นเขาห้ามพลาดวัดพระธาตุผาซ่อนแก้วเด็ดขาด เป็นที่ประทับของอุโบสถพระพุทธเจ้า 5 องค์ ซ้อนเรียงลงมาตั้งเด่นเป็นสง่ามาแต่ไกล ใครเที่ยวเขาค้อไม่แวะวัดนี้ถือว่ามาไม่ถึง ถ้าเป็นช่วงเทศกาลควรจองที่พักล่วงหน้าดีกว่าเพราะเต็มเร็วสุด ๆ
เปลี่ยนบรรยากาศจากทะเลหมอกไปชมทุ่งทานตะวันสวย ๆ กันบ้างที่เขาจีนแล จังหวัดลพบุรี วิวสวยสง่าอลังการจากทุ่งทานตะวันบนพื้นที่มากถึง 355 ไร่ ห้อมล้อมไปด้วยภูเขา มีจุดถ่ายรูปเยอะมาก มีกิจกรรมนั่งรถรางชมทุ่งทานตะวัน ค่าบริการคนละ 20 บาท, เด็ก 10 บาท จอดให้แวะถ่ายภาพทุก 10 นาที เป็นอีกหนึ่งโลเคชันสวย ๆ ใกล้กรุงเทพฯ ต้องมาเฉพาะฤดูหนาวเท่านั้น ใครชอบสไตล์นี้จัดชุดไปเปลี่ยนเป็นคอลเลคชันได้เลย
ไปกันต่อภาคอีสานกับ อุทยานแห่งชาติเขาใหญ่ จังหวัดนครราชสีมา หนึ่งในแหล่งธรรมชาติยอดฮิตของคนไทย ตอบโจทย์ทุกไลฟ์สไตล์ตั้งแต่ตัวอุทยานมีความอุดมสมบูรณ์ของธรรมชาติ น้ำตก บ่อน้ำธรรมชาติใสเห็นตัวปลาทั้งฝูง นอกจากนี้ยังมีจุดเช็คอินชิค ๆ มากมายทั้งร้านอาหาร คาเฟ่สวย ๆ กิจกรรมแอดเวนเจอร์ขับรถ ATV ขี่ม้า เครื่องเล่น รีสอร์ตสไตล์รักษ์ธรรมชาติ มาเที่ยวได้ทุกฤดูไม่มีเบื่อแน่นอน ขับรถจากกรุงเทพฯ แค่ 3 ชั่วโมงก็ถึงแล้ว แต่ขอแนะนำว่าช่วงเทศกาลควรจองที่พักล่วงหน้าเพราะเต็มเร็วมาก
ใครอยากเป็นผู้พิชิตภูกระดึง ช่วงฤดูหนาวอากาศเย็นต้องมาเลย เป็นหนึ่งในยอดเขาที่โหดสุด ๆ แห่งหนึ่งในประเทศไทย มีระยะทางขึ้นเขาประมาณ 5.5 กิโลเมตร ดูเหมือนไม่ไกลแต่ระหว่างทางไม่ง่ายอย่างที่คิด มีทั้งความชัน เดินข้ามลำธาร ปีนป่ายพอประมาณ ฟังแบบนี้แล้วอย่าพึ่งถอดใจ เพราะในระหว่างทางขึ้นภูกระดึงมีจุดแวะพักนั่งกินไอติม จิบกาแฟให้หายเหนื่อยได้เป็นระยะ มีบริการขนสัมภาระจากชาวบ้านที่ชำนาญเส้นทางเป็นอย่างดี
ไปชมเมืองสโลว์ไลฟ์กันอีกที่กับ อำเภอสังขละบุรี จังหวัดกาญจนบุรี เต็มไปด้วยมนต์เสน่ห์จากวัฒนธรรมคนท้องถิ่น โดยเฉพาะกลุ่มคนไทยเชื้อสายมอญที่อาศัยในสังขละบุรีเป็นจำนวนมาก และสืบทอดกันมาหลายรุ่น ภายในอำเภอมีแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น วัดวังก์วิเวการาม หรือ วัดใต้น้ำ เป็นวัดอยู่ในเขื่อนวชิราลงกรณ์เข้าชมได้ด้วยเรือชาวบ้าน อีกแลนด์มาร์กที่ทุกคนต้องมาถ่ายภาพอย่าง “สะพานมอญ” เป็นสะพานไม้ยาวที่สุดในไทย เต็มไปด้วยประวัติสำคัญจากยุคสงครามโลกครั้งที่ 2
ขึ้นเขาขึ้นดอยมาเยอะแล้วขอเปลี่ยนบรรยากาศมาชิลริมทะเลจันทบุรีกันบ้าง กับจุดชมวิวเนินนางพญา ถนนเฉลิมบูรพาชลทิต เป็นถนนเลียบชายทะเลยาวที่สุดในประเทศไทย ระยะทาง 111 กิโลเมตร ทอดยาวไปจนถึงจังหวัดระยอง ไฮไลต์เด็ดบนจุดชมวิวเนินนางพญาคือ กิจกรรมคล้องกุญแจคู่รักสุดโรแมนติก คู่ไหนมาเยือนต้องไม่พลาดจุดนี้เลย นอกจากจุดชมวิวแล้วในระหว่างทางมีจุดสวย ๆ อย่างศูนย์ศึกษาการพัฒนาอ่าวคุ้งกระเบนอันเนื่องมาจากพระราชดำริ อ่าวคุ้งวิมาน รายล้อมไปด้วยร้านอาหารสวย ๆ นับไม่ถ้วน
อยากหนีจากความวุ่นวายมาติดเกาะซัก 3 วัน 2 คืน ต้องมาที่เกาะกูด จังหวัดตราด เป็นเกาะใหญ่อันดับ 4 ของประเทศไทยที่เป็นเกาะสุดท้ายในเขาน่านน้ำฝั่งตะวันออก บรรยากาศถูกห้อมล้อมไปด้วยธรรมชาติอุดมสมบูรณ์ทั้งหาดทรายขาว ทะเลใส ป่าไม้เขียวชอุ่ม จุดชมวิวบนเขา มีน้ำตกสวย ๆ หลายแห่ง เรื่องการเดินทางถ้าขับรถมาเองจากกรุงเทพฯ กินเวลานานหน่อยประมาณ 4 ชั่วโมง หรือนั่งรถทัวร์ก็สะดวกเหมือนกัน ช่วงส่งท้ายปีต้องลงไปสักครั้งบรรยากาศดีแน่นอน
มัลดีฟส์เมืองไทยต้องไปที่ เกาะพยาม จังหวัดระนอง ฉายานี้ไม่ได้มาเล่น ๆ เพราะทะเลที่นี่มีสีฟ้าครามใสสะอาด หาดทรายขาวตามแบบฉบับชายฝั่งทะเลอันดามัน ในเขตเกาะพยามเต็มไปด้วยอ่าวสวย ๆ เช่น อ่าวใหญ่ อ่าวกวางปีบ อ่าวเขาควาย เป็นต้น เหมาะสำหรับคนชอบกิจกรรมทางน้ำไม่ว่าจะเป็นล่องเรือรับลมทะเล ดำน้ำดูปะการัง พายเรือคายัคชมบรรยากาศธรรมชาติ นอกจากนี้ ยังมีวิวธรรมชาติอุดมไปด้วยนกประจำถิ่น นกอพยพที่หาไม่ได้ในกรุงเทพฯ
สุดท้ายกับเขื่อนเชี่ยวหลาน อุทยานแห่งชาติเขาสก จังหวัดสุราษฎร์ธานี มีดีมากกว่าความสวยงาม เพราะเป็นสถานที่หล่อเลี้ยงชีวิตของคนท้องถิ่น เป็นทั้งแหล่งผลิตกระแสไฟฟ้า แหล่งกักเก็บน้ำในฤดูฝนเพื่อการเพาะปลูก จุดรับน้ำในช่วงอุทกภัย เป็นแหล่งประมงน้ำจืดสำคัญของชาวบ้าน ส่วนไฮไลต์ของเขื่อนคือ เขาสามเกลอ มีลักษณะเป็นเขาหินปูนตั้งเรียงกันคล้ายกับเมืองกุ้ยหลิน สถานที่เที่ยวยอดฮิตของเมืองจีน ได้ฉายาว่า “กุ้ยหลินเมืองไทย”
การกำหนดจุดหมายและคำนวณค่าใช้จ่ายในระหว่างเที่ยวคือเรื่องสำคัญ เพราะออกทริปแต่ละครั้งต้องใช้เงินไปกับสิ่งต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็น ค่าน้ำมัน ค่าที่พัก ค่ากิน ค่าซื้อของจิปาถะ ที่สำคัญควรทำประกันเดินทางติดตัวไว้เพื่อรับมือกับเหตุฉุกเฉินระหว่างทาง เลือกแผนแบบรายวันหรือแบบเหมาก็ได้ คุ้มครองตลอด 24 ชั่วโมง ค่าเบี้ยประกันหลักร้อยแต่ทุนประกันสูง ครอบคลุมค่ารักษาพยาบาล ค่าเสียเวลาจากเที่ยวบินล่าช้า คุ้มครองกระเป๋าเดินทางทรัพย์สิน สนใจซื้อประกันกับ heygoody คลิกเลย