← กลับ

แจกแผนที่รถไฟญี่ปุ่น พร้อมแนะนำสายที่ควรรู้

3868 คน
แชร์
แจกฟรี แผนที่รถไฟญี่ปุ่น

ที่เที่ยวญี่ปุ่นสวย ๆ มีมากมาย แต่ที่ที่ติดท็อปในใจคนไทยคงต้องยกให้ โตเกียว เมืองท่องเที่ยวชั้นยอดที่มีครบทุกรสชาติ วันนี้ heygoody เลยขอเอาใจนักเที่ยวตัวยง แจกฟรีแผนที่รถไฟญี่ปุ่น พร้อมแนะนำที่เที่ยวสุดฮิตเช็คลิสต์ตามสายรถไฟใต้ดิน ใครชอบเที่ยวญี่ปุ่นด้วยตัวเองและอยากเก็บแบบครบ ๆ เซฟแผนที่รถไฟโตเกียวเก็บไว้ แล้วไปลุยกันเลย!

ยาวไปเลือกอ่านได้นะ ซ่อน

ประเภทของรถไฟในญี่ปุ่นที่ควรรู้

ก่อนอื่นเรามาทำความรู้จักภาพรวมของระบบขนส่งมวลชนในญี่ปุ่นกันสักนิด จะมีอะไรบ้าง ไปดูพร้อมกัน

รถไฟชินคันเซ็น (Shinkansen / 新幹線)

  • หรือที่รู้จักกันในชื่อ "รถไฟหัวกระสุน" เป็นรถไฟความเร็วสูงที่เชื่อมต่อระหว่างเมืองใหญ่ทั่วประเทศ
  • เหมาะสำหรับการเดินทางระยะไกล สะดวก รวดเร็ว และตรงเวลามาก
  • ต้องใช้ตั๋วโดยสารเฉพาะของชินคันเซ็นซึ่งมีราคาสูง แต่สามารถใช้บัตร JR Pass โดยสารได้ในสายส่วนใหญ่ (ยกเว้นขบวน Nozomi และ Mizuho ในบางกรณี)

รถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express / 特急 - Tokkyū)

  • เป็นรถไฟที่เร็วที่สุดในกลุ่มรถไฟธรรมดา (ที่ไม่ใช่ชินคันเซ็น)
  • จอดเฉพาะสถานีสำคัญ ๆ และเมืองท่องเที่ยวหลัก เหมาะสำหรับการเดินทางข้ามจังหวัดที่ไม่มีชินคันเซ็นผ่าน
  • ต้องเสียค่าธรรมเนียมด่วนพิเศษเพิ่มเติมจากค่าโดยสารปกติ (แต่ส่วนใหญ่ครอบคลุมในบัตร JR Pass)

รถไฟด่วน (Express / 急行 - Kyūkō)

  • จอดน้อยกว่ารถไฟเร็ว แต่จอดมากกว่ารถไฟด่วนพิเศษ
  • ปัจจุบันมีให้บริการน้อยลง ส่วนใหญ่ถูกแทนที่ด้วยรถไฟเร็ว (Rapid) หรือรถไฟด่วนพิเศษ (Limited Express)

รถไฟเร็ว (Rapid / 快速 - Kaisoku)

  • เป็นขบวนรถที่ข้ามการจอดในบางสถานี ทำให้ถึงที่หมายเร็วกว่ารถไฟธรรมดา
  • ค่าโดยสารเท่ากับรถไฟธรรมดา จึงเป็นตัวเลือกที่นักท่องเที่ยวและคนท้องถิ่นนิยมใช้มาก

รถไฟธรรมดา (Local / 普通 - Futsū)

  • เป็นรถไฟที่จอดทุกสถานีในเส้นทางนั้น ๆ
  • เหมาะสำหรับการเดินทางระยะสั้น ๆ หรือไปยังสถานีเล็ก ๆ ที่ขบวนรถด่วนไม่จอด

รถไฟเอกชน (Private Railways / 私鉄 - Shitetsu)

  • เป็นรถไฟที่ไม่ได้ดำเนินการโดยกลุ่มบริษัท JR เช่น Odakyu, Tobu, Kintetsu
  • ให้บริการในเส้นทางเฉพาะที่ JR อาจเข้าไม่ถึง หรือเป็นทางเลือกในการเดินทางไปยังแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยม เช่น ฮาโกเนะ, นิกโก้
  • ไม่สามารถใช้บัตร JR Pass ได้ ต้องซื้อตั๋วแยกหรือใช้พาสของบริษัทนั้นๆ

รถไฟใต้ดิน (Subway / 地下鉄 - Chikatetsu)

  • ให้บริการในเมืองใหญ่ เช่น โตเกียว โอซาก้า เกียวโต สำหรับการเดินทางภายในเมือง
  • ไม่สามารถใช้บัตร JR Pass ได้ ต้องซื้อตั๋วเป็นเที่ยว หรือใช้บัตรเติมเงิน IC Card (เช่น Suica, Pasmo) หรือพาสสำหรับรถไฟใต้ดินโดยเฉพาะ

จะเห็นได้ว่าระบบรถไฟของญี่ปุ่นนั้นมีความหลากหลายและครอบคลุมการเดินทางทุกรูปแบบ แต่เมื่อพูดถึงการเดินทางท่องเที่ยวให้ทั่วถึงทุกซอกทุกมุมภายในมหานครที่ซับซ้อนอย่างโตเกียวแล้ว รถไฟใต้ดิน (Subway) ถือเป็นเครือข่ายเส้นเลือดใหญ่ที่สำคัญที่สุด ซึ่ง Tokyo Metro ก็เป็นหนึ่งในผู้ให้บริการหลักที่นักท่องเที่ยวต้องใช้งานอย่างแน่นอน ดังนั้นในส่วนถัดไป เราจะมาเจาะลึกสายรถไฟต่าง ๆ ของ Tokyo Metro เพื่อให้เหล่ากู๊ดดี้วางแผนเที่ยวได้อย่างสมบูรณ์แบบ

แผนที่รถไฟญี่ปุ่นอัปเดตล่าสุด

แผนที่รถไฟญี่ปุ่นอัปเดตล่าสุด 2024

ดาวน์โหลดแผนที่รถไฟฟ้าญี่ปุ่น : Tokyo Metro

เห็นแผนที่รถไฟญี่ปุ่นแล้วอย่าเพิ่งตกใจ ลองดูที่มุมล่างขวาของแผนที่ จะมีแบ่งสายรถไฟออกเป็น 2 ประเภท คือ รถไฟ Tokyo Metro และ Toei Subway

  1. รถไฟ Tokyo Metro เป็นรถไฟใต้ดินของโตเกียว มีให้บริการมากถึง 9 สาย ครอบคลุมทั่วทั้งเมืองโตเกียว ได้แก่ Ginza, Marunouchi, Hibiya, Tozai, Chiyoda, Yurakucho, Fukutoshin, Hanzomon และ Namboku
  2. รถไฟ Toei Subway เป็นรถไฟใต้ดินที่ดำเนินควบคู่กันไปกับรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro เน้นวนรอบเมืองและผ่านกลางเมืองตามทิศต่าง ๆ ในโตเกียว ให้บริการทั้งหมด 4 สายด้วยกัน ได้แก่ Asakusa, Mita, Shinjuku และ Oedo

เส้นทางของรถไฟใต้ดินทั้ง 2 ประเภทอาจจะดูยั้วเยี้ยไปหน่อย แต่เวลาเดินทางจริงๆ นั้นไม่ยากอย่างที่คิด ให้ดูสัญลักษณ์ของสถานี ตัวอักษรภาษาอังกฤษด้านบนเป็นตัวย่อของชื่อสายรถไฟ เช่น G = Ginza Line

หมายเลขด้านล่าง เป็นหมายเลขสถานี ซึ่งตัวอักษรและหมายเลขจะล้อมรอบด้วยวงกลมตามสีของสายรถไฟนั้น ๆ ถ้ารู้ว่าต้องขึ้นสถานีไหนและไปลงที่สถานีไหน ให้จดจำตัวย่อของสายและหมายเลขสถานี เท่านี้ก็เดินทางได้ง่าย ๆ แบบไม่ต้องกลัวหลงแล้ว

เส้นทางรถไฟฟ้าญี่ปุ่นมีสายไหนบ้าง?

เวลาให้บริการ Tokyo Metro

ถ้าเริ่มดูแผนที่รถไฟโตเกียวเป็นกันแล้ว ก็ไปดูกันต่อเลยว่า ทั้ง 9 สายของ Tokyo Metro มีอะไรน่าสนใจบ้าง? ขบวนแรกและขบวนสุดท้ายวิ่งกี่โมง? ไปดูพร้อมกัน

Ginza Line

Ginza Line บนแผนที่รถไฟฟ้าสัญลักษณ์และเส้นทางจะใช้สีส้ม และตัวอักษร G มีทั้งหมด 19 สถานี เรียกได้ว่า เป็นสายที่คึกคักที่สุดเพราะตลอดเส้นทางเต็มไปด้วยห้างสรรพสินค้า ร้านอาหาร และแหล่งท่องเที่ยวมากมาย เช่น ถนนกินซ่า สถานี Ginza (G09) วัดอาซากุสะ สถานี Asakusa (G19) และย่านอุเอโนะ สถานี UENO (G16) เป็นต้น ในวันธรรมดารถไฟจะวิ่งทุก 2 นาทีในช่วงพีคตอนเช้า ทุก 3 นาทีในช่วงกลางวัน และทุก 2 นาที 15 วินาทีในช่วงพีคตอนเย็น 

รถไฟสาย Ginza เที่ยวแรก

  • ออกจากสถานี Shibuya 05.01 น.
  • ออกจากสถานี Asakusa 05.01 น.

รถไฟสาย Ginza เที่ยวสุดท้าย

  • ออกจากสถานี Shibuya 00.02 น.
  • ออกจากสถานี Asakusa 00.14 น.

Marunouchi Line

Marunouchi Line บนแผนที่รถไฟฟ้าสัญลักษณ์และเส้นทางจะใช้สีแดง และตัวอักษร M แทนสายหลัก และ Mb แทนสายย่อย มีทั้งหมด 25 สถานี ตลอดเส้นทางรถไฟสายนี้มีสถานีที่สำคัญและเป็นที่ตั้งของแหล่งท่องเที่ยวน่าสนใจในโตเกียว เช่น ย่านบันเทิงคาบุกิโจ สถานี Nishi-shinjuku (M07) โตเกียวโดม และศาลเจ้าฮากุซัน สถานี Korakuen (M22) เป็นต้น

รถไฟสาย Marunouchi เที่ยวแรก

  • ออกจากสถานี Ogikubo 05.01 น.
  • ออกจากสถานี Ikebukuro 05.00 น.

รถไฟสาย Marunouchi เที่ยวสุดท้าย

  • ออกจากสถานี Ogikubo 00.11 น.
  • ออกจากสถานี Ikebukuro 00.20 น.

Hibiya Line

Hibiya Line บนแผนที่รถไฟฟ้าสัญลักษณ์และเส้นทางจะใช้สีเทา และตัวอักษร H มีทั้งหมด 22 สถานี เป็นอีกหนึ่งเส้นทางที่เชื่อมต่อรถไฟใต้ดินสายอื่น และในแต่ละสถานีก็มีสถานที่ท่องเที่ยวน่าสนใจมากมาย เช่น สวนฮิบิยะ สถานี Hibiya (H08) ย่านอากิฮาบาระ สถานี Akihabara (H16) หรือรปปงหงิ สถานี Roppongi (H04) แหล่งรวมความบันเทิงยามราตรี ใครสายตี้ชอบใช้ชีวิตตอนกลางคืนต้องไม่พลาด!

รถไฟสาย Hibiya เที่ยวแรก

  • ออกจากสถานี Naka-Meguro 05.00 น.
  • ออกจากสถานี Kita-Senju 05.00 น.

รถไฟสาย Hibiya เที่ยวสุดท้าย

  • ออกจากสถานี Naka-Meguro 00.28 น.
  • ออกจากสถานี Kita-Senju 00.28 น.

Tozai Line

Tozai Line บนแผนที่รถไฟฟ้าสัญลักษณ์และเส้นทางจะใช้สีฟ้า และตัวอักษร T มีทั้งหมด 23 สถานี สำหรับที่เที่ยวแนะนำบนเส้นทาง Tozai มีให้เลือกหลายสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นแหล่งรวมร้านอร่อยในย่านนากาโนะ สถานี Nakano (T01) จุดชมดอกซากุระบริเวณแม่น้ำ Kanda ที่สถานี Waseda (T04) หรือพิพิธภัณฑ์รถไฟใต้ดินโตเกียวติดสถานี Kasai (T17) เป็นต้น

รถไฟสาย Tozai เที่ยวแรก

  • ออกจากสถานี Nakano 05.00 น.
  • ออกจากสถานี Nishi-funabashi 05.00 น.

รถไฟสาย Tozai เที่ยวสุดท้าย

  • ออกจากสถานี Nakano 23.52 น.
  • ออกจากสถานี Nishi-funabashi 00.09 น.

Chiyoda Line

Chiyoda Line บนแผนที่รถไฟฟ้าสัญลักษณ์และเส้นทางจะใช้สีเขียว และตัวอักษร C มีทั้งหมด 20 สถานี ถ้าใครตามหาที่เที่ยวสาย Chiyoda อยู่ล่ะก็ บอกเลยว่า มีให้เลือกทุกสไตล์ ไม่น้อยหน้าสายอื่น ๆ ไม่ว่าจะเป็น สวนโยโยงิสำหรับพักผ่อนหย่อนใจ สถานี Yoyogi-koen (C02) คาเฟ่น่ารัก ๆ แถวย่านยานากะ สถานี Nezu (C14) หรือใครเป็นสายช้อปต้องมาที่ โอโมเตะซันโดฮิลส์ แหล่งชอปปิ้งสินค้าแบรนด์เนมติดสถานี Omote-sando (C04) เป็นต้น

รถไฟสาย Chiyoda เที่ยวแรก

  • ออกจากสถานี Yoyogi-uehara 05.00 น.
  • ออกจากสถานี Kita-ayase 05.00 น.

รถไฟสาย Chiyoda เที่ยวสุดท้าย

  • ออกจากสถานี Yoyogi-uehara 00.00 น.
  • ออกจากสถานี Kita-ayase 00.15 น.

Yurakucho Line

Yurakucho Line บนแผนที่รถไฟฟ้าสัญลักษณ์และเส้นทางจะใช้สีทอง และตัวอักษร Y มีทั้งหมด 24 สถานี ตลอดสาย Yurakucho มีครบทั้งสวนสาธารณะ ร้านอาหาร ร้านนั่งชิลล์ และแหล่งช้อปปิ้ง ถ้ามาช่วงฤดูใบไม้ผลิต้องแวะมาชมซากุระที่สวนจิโดริงาฟุจิ แถวสถานี Nagatacho (Y16) แต่ถ้าใครเป็นคอดื่มต้องไม่พลาดย่านยูระคุโช สถานี Yurakucho (Y18) แหล่งรวมร้านแนวอิซากายะ ลิ้มรสอาหารญี่ปุ่นต้นตำรับ ท่ามกลางบรรยากาศแบบญี่ปุ๊นญี่ปุ่น ชอบเที่ยวสไตล์ไหน สายนี้มีครบ!

รถไฟสาย Yurakucho เที่ยวแรก

  • ออกจากสถานี Wakoshi 05.00 น.
  • ออกจากสถานี Shin-kiba 05.00 น.

รถไฟสาย Yurakucho เที่ยวสุดท้าย

  • ออกจากสถานี Wakoshi 23.55 น.
  • ออกจากสถานี Shin-kiba 00.01 น.

Fukutoshin Line

Fukutoshin Line บนแผนที่รถไฟฟ้าสัญลักษณ์และเส้นทางจะใช้สีน้ำตาล และตัวอักษร F มีทั้งหมด 16 สถานี โดยสาย Fukutoshin เป็นจุดเชื่อมต่อรถไฟฟ้าสายต่าง ๆ แถมยังมีแหล่งกิน เที่ยว ช้อป ตามแนวรถไฟฟ้าอีกเพียบ จะไปช้อปปิ้งที่ Sunshine City ห้างดังแถวสถานี Ikebukuro (F09) แวะขอพรที่ศาลเจ้าเมจิ สถานี Kita-Sando (F14) หรือเดินเดี่ยวตามถนนทาเคชิตะ สถานี Meiji-jingumae (F15) ก็ได้ บอกเลยว่า เที่ยวสายเดียวได้ครบทุกรสชาติแน่นอน

รถไฟสาย Fukutoshin เที่ยวแรก

  • ออกจากสถานี Wakoshi 05.05 น.
  • ออกจากสถานี Shibuya 05.05 น.

รถไฟสาย Fukutoshin เที่ยวสุดท้าย

  • ออกจากสถานี Wakoshi 23.55 น.
  • ออกจากสถานี Shibuya 00.20 น.

Hanzomon Line

Hanzomon Line บนแผนที่รถไฟฟ้าสัญลักษณ์และเส้นทางจะใช้สีม่วง และตัวอักษร Z มีทั้งหมด 14 สถานี เป็นอีกสายที่ระหว่างทางมีสถานที่ท่องเที่ยวหลายแห่งที่น่าสนใจ เช่น วิหารเซนต์นิโคลัสแห่งญี่ปุ่น สถานี Jimbocho (Z07) สะพานคิโยสุ สถานี Suitengu-mae (Z10) หรือจะนั่งไปจนสุดสาย ก็มีอีกหนึ่งแลนด์มาร์กอย่าง โตเกียว สกายทรี หอคอยชมวิว 360 องศา ใครอยากเห็นภูเขาไฟฟูจิแบบเต็มตาต้องแวะมา พิกัดสถานี Oshiage (Z14) เลย

รถไฟสาย Hanzomon เที่ยวแรก

  • ออกจากสถานี Shibuya 05.15 น.
  • ออกจากสถานี Oshiage 05.06 น.

รถไฟสาย Hanzomon เที่ยวสุดท้าย

  • ออกจากสถานี Shibuya 00.12 น.
  • ออกจากสถานี Oshiage 00.18 น.

Namboku Line

Namboku Line บนแผนที่รถไฟฟ้าสัญลักษณ์และเส้นทางจะใช้สีเขียวมรกต และตัวอักษร N มีทั้งหมด 19 สถานี ต้องบอกว่า เป็นเส้นทางที่มีพิกัดเที่ยวตามแนวรถไฟฟ้ามากมาย ไม่ว่าจะเป็นแหล่งชมวิวอย่าง จุดชมวิวซากุระริมแม่น้ำเมกุโระ สถานี Meguro (N01) และสวนอาสุกะยามะ สถานี Oji (N16) หรือแหล่งช้อปปิ้ง ย่านคากุระซากะ สถานี Iidabashi (N10) และย่านอากาบาเนะ สถานี Akabane-iwabuchi (N19) ใครไม่รู้จะไปที่ไหน ซื้อตั๋วแบบวันเดย์แล้วไปตะลอนตามสายนี้ได้เลย!

รถไฟสาย Namboku เที่ยวแรก

  • ออกจากสถานี Meguro 05.16 น.
  • ออกจากสถานี Akabane-iwabuchi 05.01 น.

เที่ยวสุดท้าย

  • ออกจากสถานี Meguro 23.59 น.
  • ออกจากสถานี Akabane-iwabuchi 00.26 น.

หมายเหตุ : เที่ยวเวลาอาจมีการเปลี่ยนแปลง เหล่ากู๊ดดี้สามารถเช็คข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Tokyo Metro

วิธีดูแผนที่รถไฟฟ้าใต้ดินญี่ปุ่นแบบเข้าใจง่าย

ใครที่กำลังวางแผนจะนั่งรถไฟในโตเกียว แล้วรู้สึกว่าแผนที่รถไฟญี่ปุ่นมันดูซับซ้อนเกินไป ลองทำตามขั้นตอนนี้ รับรองว่ามองแผนที่เป็นใน 3 นาที!

1. รู้ก่อนว่า "จะไปสถานีไหน และใช้สายอะไร"

เริ่มต้นจากการรู้จุดหมายก่อนเลยว่า จะไปสถานีอะไร แล้วสถานีนั้นอยู่บนรถไฟสายไหน เช่น สาย JR หรือ Subway แล้วชื่อสายคืออะไร ซึ่งสามารถเช็คได้ง่าย ๆ จาก Google Maps เลย เช่น พิมพ์ว่า “Ueno Station” ก็จะเห็นว่าสถานีนี้มีทั้ง Ginza Line, Hibiya Line (ของ Subway) และ Yamanote Line (ของ JR)

2. ใช้สีและชื่อสายช่วยโฟกัส

เมื่อรู้ชื่อสายแล้ว ก็ให้มองหาสายนั้นในแผนที่รถไฟ จุดสังเกต คือแต่ละสายจะมีสีประจำตัว เช่น Ginza Line = สีเหลืองส้ม ให้มองหาเส้นสีนั้นในแผนที่ จากนั้นค่อยไล่หาชื่อสถานีที่เราต้องการ เทคนิคนี้ช่วยให้ไม่ต้องมองทั้งแผนที่แบบงง ๆ เพราะเราจะโฟกัสแค่เส้นเดียวเท่านั้น ถ้าต้องนั่งเปลี่ยนสายรถไฟ ให้ดูว่าสถานีไหนเป็นจุดเชื่อม (Interchange) ระหว่างสาย เช่น จาก Ginza Line ไป Hibiya Line ก็ต้องเปลี่ยนที่สถานีที่มีสองสายนี้เชื่อมกันจริง ๆ ไม่ใช่แค่เส้นตัดผ่านกันเฉย ๆ ถ้าดูแผนที่แล้วยังรู้สึกว่ายากไปนิด ก็ไม่ต้องกังวล เพราะเหล่ากู๊ดดี้สามารถใช้ตัวช่วยได้ เช่น Google Maps, Japan Travel by Navitime แค่ใส่ต้นทาง-ปลายทาง ระบบก็จะจัดเส้นทาง + เวลา + ค่าโดยสารให้ครบแบบไม่ต้องคิดเองเลย

ประเภทของตั๋วรถไฟไฟฟ้าของญี่ปุ่น

ประเภทของตั๋วรถไฟไฟฟ้าของญี่ปุ่น

รู้จักเส้นทางรถไฟฟ้าญี่ปุ่นเบื้องต้นแล้ว หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วตั๋วรถไฟฟ้าล่ะ มีแบบไหนบ้าง? แบบไหนคุ้มที่สุด? heygoody สรุปมาให้แล้ว เลือกแบบที่คุ้มเพื่อประหยัดค่าเดินทางแล้วเอาเงินไปช้อปปิ้งกันดีกว่า!

1. ตั๋วทั่วไป

ตั๋วทั่วไป เป็นตั๋วโดยสารแบบเที่ยวเดียว สามารถใช้ได้กับรถไฟฟ้าใต้ดิน Tokyo Metro และ Toei Subway โดยค่าโดยสารตั๋วทั่วไปของ Tokyo Metro จะเริ่มตั้งแต่ 180-330 เยน ส่วนของ Toei Subway จะราคาสูงกว่าเล็กน้อยคือ 180-430 เยน กำหนดตามระยะทาง วิธีซื้อไม่ยุ่งยาก สามารถซื้อได้จากเครื่องจำหน่ายตั๋วที่ตั้งอยู่ทุกสถานีรถไฟฟ้าได้เลย รองรับหลายภาษาด้วยนะ

2. ตั๋วโตเกียวไม่จำกัดเที่ยว 1-3 วัน

ตั๋วโตเกียวไม่จำกัดเที่ยว 1-3 วัน สามารถใช้นั่งรถไฟฟ้าใต้ดินแบบไม่จำกัดทั้งของ Tokyo Metro และ Toei Subway รวม 13 สาย 250 สถานีทั่วทั้งเมือง! มีให้เลือก 3 แบบคือ 24 ชั่วโมง 48 ชั่วโมง และ 72 ชั่วโมง โดยมีราคาตามนี้

  • 24 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 800 เยน เด็ก 400 เยน
  • 48 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 1,200 เยน เด็ก 600 เยน
  • 72 ชั่วโมง ผู้ใหญ่ 1,500 เยน เด็ก 750 เยน

สามารถซื้อตั๋วที่ช่องจำหน่ายตั๋วรถไฟ Tokyo Metro ได้เลย นอกจากนี้ยังซื้อได้ที่ล็อบบี้ขาเข้าสนามบินนาริตะ เทอร์มินอล 1 และ 2 รวมทั้งล็อบบี้ขาเข้าชั้น 2 เทอร์มินอลผู้โดยสารระหว่างประเทศ สนามบินฮาเนดะ เวลาซื้อตั๋วต้องโชว์พาสปอร์ตด้วยนะ ใครมีแพลนเที่ยวหลายวัน ตั๋วนี้คุ้มสุด ๆ

3. IC Card

IC Card คือบัตรเดินทางอัจฉริยะแบบเติมเงิน ที่เปรียบเสมือนกระเป๋าเงินอิเล็กทรอนิกส์สำหรับนักท่องเที่ยว ถือเป็นไอเทมสำคัญที่ทุกคนที่มาเที่ยวญี่ปุ่นต้องมี เพราะความสะดวกสบายที่ครอบคลุมการใช้งานแทบทุกอย่าง ตั้งแต่

  • การเดินทาง ใช้แตะจ่ายค่าโดยสารรถไฟได้ทุกประเภท (JR, รถไฟใต้ดิน, รถไฟเอกชน), รถบัส, และแท็กซี่บางคัน
  • การจับจ่าย ใช้ซื้อของในร้านสะดวกซื้อ (Konbini) เช่น 7-Eleven, FamilyMart, Lawson, ซื้อน้ำจากตู้ขายของอัตโนมัติ, จ่ายเงินในร้านอาหารและร้านค้าบางแห่ง
  • บริการอื่น ๆ ใช้จ่ายค่าบริการล็อกเกอร์หยอดเหรียญตามสถานีรถไฟได้

ในปัจจุบัน IC Card สามารถใช้แบบบัตรดิจิทัลบนมือถือ (Mobile IC Card) ไม่ต้องต่อคิวซื้อบัตร ไม่ต้องพกบัตรแข็งให้วุ่นวาย หรือซื้อเป็นบัตรแข็งก็ได้ ที่แนะนำให้มีติดตัว คือ

  • Welcome Suica บัตรสีแดงที่ออกแบบมาเพื่อนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ หาซื้อได้ที่สนามบินและสถานีรถไฟใหญ่ ๆ ไม่มีค่ามัดจำ 500 เยน มีอายุใช้งาน 28 วัน และเงินที่เหลือในบัตรเมื่อหมดอายุ จะไม่สามารถขอคืนได้
  • PASMO Passport เป็นบัตรสำหรับนักท่องเที่ยวเช่นกัน มีคุณสมบัติเหมือนกับ Welcome Suica คือมีอายุ 28 วัน และไม่สามารถขอคืนเงินที่เหลือในบัตรได้

วิธีการใช้งานและเติมเงิน

  • วิธีใช้ง่าย ๆ แค่ "แตะเข้า-แตะออก"
    • นำบัตร IC Card (หรือมือถือ) แตะที่แผงอ่านบัตรบริเวณประตูทางเข้าสถานี (Tap In)
    • เมื่อถึงสถานีปลายทาง ให้นำบัตรแตะที่ประตูทางออกอีกครั้ง (Tap Out) ระบบจะคำนวณและหักค่าโดยสารตามระยะทางจริงโดยอัตโนมัติ
  • วิธีเติมเงิน (Charge)
    • ตู้ขายตั๋วอัตโนมัติในทุกสถานีรถไฟ (มีเมนูภาษาอังกฤษให้เลือก)
    • ร้านสะดวกซื้อ เพียงเดินไปที่เคาน์เตอร์แคชเชียร์ ยื่นบัตร IC Card พร้อมเงินสด แล้วพูดกับพนักงานง่ายๆ ว่า "Charge, please" (ชาร์จจิ โอเนไงชิมัส)

หลายคนอาจจะสงสัยว่า แล้วบัตร JR Pass ใช้นั่งรถไฟใต้ดิน Tokyo Metro ได้ไหม? คำตอบคือ ยังไม่ได้นะ เพราะรถไฟใต้ดินส่วนใหญ่ในญี่ปุ่น อย่าง Tokyo Metro หรือ Toei Subway ไม่ได้อยู่ในเครือของ JR (Japan Railways) เลยไม่สามารถใช้ JR Pass ขึ้นได้ บัตรนี้จะครอบคลุมแค่รถไฟของ JR และบางสายที่เป็นพันธมิตรเท่านั้น

แอปพลิเคชันแนะนำสำหรับวางแผนการเดินทางด้วยรถไฟ

สุดท้ายนี้ ไม่ว่าเหล่ากู๊ดดี้จะเดินทางด้วยรถไฟแบบไหน heygoody ได้รวบรวมสุดยอดแอปพลิเคชันที่นักท่องเที่ยวทุกคนควรมีติดไว้ รับรองว่าการเดินทางด้วยรถไฟและขนส่งสาธารณะอื่น ๆ ในญี่ปุ่นจะง่ายขึ้นเยอะเลย

1. Google Maps

ใช้งานง่ายที่สุดสำหรับนักท่องเที่ยวทั่วไป มีเมนูภาษาไทย แสดงข้อมูลครบถ้วน ทั้งเส้นทางรถไฟ, รถบัส, การเดินเท้า พร้อมราคาและเวลาเดินทางโดยประมาณ สามารถค้นหาเส้นทางจากตำแหน่งปัจจุบันไปยังจุดหมายได้ทันที

2. Japan Transit Planner (Jorudan)

เป็นแอปฯ วางแผนการเดินทางที่คนญี่ปุ่นนิยมใช้ มีความแม่นยำสูงมาก สามารถระบุเงื่อนไขการค้นหาได้ละเอียด เช่น การเลี่ยงบันได การเลือกใช้/ไม่ใช้ชินคันเซ็น นอกจากนี้ยังบอกข้อมูลสำคัญ เช่น หมายเลขชานชาลา, ค่าโดยสารที่ต้องจ่ายจริงอย่างละเอียด

3. Japan Travel by NAVITIME

ออกแบบมาเพื่อนักท่องเที่ยวโดยเฉพาะ มีฟังก์ชันเด่นคือ การค้นหาเส้นทางสำหรับผู้ถือบัตร Japan Rail Pass และพาสอื่น ๆ ช่วยกรองเส้นทางที่พาสของเหล่ากู๊ดดี้ครอบคลุม ทำให้วางแผนการเดินทางได้คุ้มค่าที่สุด

4. Klook / KKday

แม้จะไม่ใช่แอปฯ ค้นหาเส้นทางโดยตรง แต่เป็นแอปฯ ที่จำเป็นสำหรับการซื้อตั๋วและพาสต่าง ๆ ล่วงหน้าสามารถใช้ซื้อ Japan Rail Pass บัตรเข้าชมสถานที่ต่าง ๆ ตั๋วรถไฟเข้า-ออกสนามบิน เช่น Narita Express, Keisei Skyliner และบัตร IC Card ได้จากประเทศไทย สะดวกและมักได้ราคาดีกว่า

เที่ยวญี่ปุ่นสบายใจตลอดทริปด้วยประกันเดินทางต่างประเทศ

เที่ยวญี่ปุ่นมีแต่คุ้มกับคุ้ม เอาแค่ตามเส้นทางรถไฟฟ้าญี่ปุ่นก็เต็มไปด้วยแหล่งท่องเที่ยวมากมายแล้ว ยังไม่นับรวมสถานที่อื่น ๆ ที่ยังรอเหล่ากู๊ดดี้ไปเช็คอินอีกเพียบ! หวังว่าแผนที่รถไฟญี่ปุ่น และข้อมูลข้างต้นจะเป็นประโยชน์สำหรับคนที่มีแพลนจะไปเที่ยวญี่ปุ่นเร็ว ๆ นี้ ก่อนเดินทางอย่าลืม ลงทะเบียน Visit Japan Web ให้เรียบร้อย จะได้ไม่ต้องเสียเวลาไปกรอกเอกสารกระดาษที่จุดตรวจคนเข้าเมือง แค่แสดง QR Code ที่ได้จากการลงทะเบียนก็ช่วยให้เจ้าหน้าที่สามารถตรวจสอบข้อมูลได้รวดเร็วขึ้น เริ่มทริปได้สบายแบบไม่ต้องรอนาน!

เที่ยวญี่ปุ่นแบบสบายใจ ไม่มีสะดุด แค่ซื้อประกันเดินทางต่างประเทศที่ครอบคลุมทุกเหตุเการณ์ไม่คาดฝัน ทั้งกระเป๋าหาย ไฟล์ทดีเลย์ กระเป๋าล่าช้า เจ็บป่วย หรืออุบัติเหตุ ซื้อประกันการเดินทางกับ heygoody ได้แล้ววันนี้ เริ่มต้นหลักร้อย แต่คุ้มครองถึงหลักล้าน!

ที่มา : Tokyo Metro, CheapTickets และ Chill Chill Japan

แชร์
ไปเลือกประกันรถยนต์กัน!
แค่กรอกข้อมูลง่าย ๆ แล้วให้ heygoody เสนอแผนที่เหมาะกับคุณ
เช็คราคาเบี้ย
ไปเลือกประกันรถยนต์กัน!
แค่กรอกข้อมูลง่าย ๆ แล้วให้ heygoody เสนอแผนที่เหมาะกับคุณ
เช็คราคาเบี้ย
แชร์
แชร์
20 รางวัล
การันตีความสำเร็จ
จากเวทีระดับโลก
ดูรางวัลทั้งหมด
The Asian Banker
Winner หมวดหมู่ RETAIL FINANCE DIGITAL AND FRICTIONLESS AWARDS- Best Customer Experience Initiative – "Do Not Call" Policy
Digital CX Awards 2025
Winner หมวดหมู่ Outstanding Digital CX Transformation in insurance- Thailand
CX Asia 2025
Silver หมวดหมู่ Best use of CX Technology
ITC Asia Awards
Winner หมวดหมู่ C-Suit of the year
Insure Tech Connect Asia
Brokerage Breakthrough · Data
Analytics Master Awards - 2024
Global Retail Banking Innovation
Best Customer Centric Business Model - 2024
New York Festivals Awards 2024
Best Customer Centric Business Model - 2024
The Work 2024
Film/TV Craft · Film/Web Film · Culture · Work for Good · Branded Content+Entertainment - 2024
Thailand Influencer Awards 2024 by Tellscore
Best Financial & Investment Influencer Campaign - 2024
AdPeople Awards & Symposium 2024
•Silver หมวดหมู่ Craft
•Bronze หมวดหมู่ Craft
•Bronze หมวดหมู่ Film
Marketing Award of Thailand 2024
Silver -Brand Experience & Communication
ช่องทางการติดต่อ
เลขที่ใบอนุญาตประกันวินาศภัย ว00015/2556
เลขที่ใบอนุญาตเสนอขายประกันภัยผ่านช่องทางอิเล็กทรอนิกส์ อลว 015521000/2563 บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน)
เลขที่ใบอนุญาตประกันวินาศภัย
chevron-down