คนใช้รถทุกคันคงไม่มีใครไม่รู้จัก พ.ร.บ. รถยนต์ เพราะเป็นหลักประกันที่ภาครัฐบังคับให้ทุกคนต้องทำตามที่กฎหมาย พ.ร.บ. จราจร พ.ศ. 2522 ระบุไว้ เพื่อช่วยคุ้มครองผู้ขับขี่และคู่กรณีจากอุบัติเหตุจราจร ทั้งความเสียหายต่อร่างกาย สูญเสียอวัยวะ พิการถาวร และเสียชีวิต และในยุคดิจิทัลนี้ การซื้อ พ.ร.บ. รถยนต์ออนไลน์ก็เป็นอีกทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว แต่สำหรับเหล่ากู๊ดดี้มือใหม่อาจยังไม่รู้ว่า การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ต้องทำอะไรบ้าง และได้ขาดต่อนาน ๆ ผิดกฎหมายมั้ย วันนี้ heygoody มีคำตอบ
พ.ร.บ. รถยนต์ หรือ พระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ เป็นกฎหมายที่บังคับให้รถยนต์ทุกคันที่จดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกต้องทำ เพื่อเป็นหลักประกันขั้นพื้นฐานสำหรับผู้ประสบภัยจากรถทุกคน ไม่ว่าจะเป็นผู้ขับขี่ ผู้โดยสาร หรือบุคคลภายนอก ให้ได้รับการชดเชยค่าเสียหายเบื้องต้นในกรณีที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางรถยนต์ โดยไม่ต้องพิสูจน์ความผิด
พ.ร.บ. รถยนต์ให้ความคุ้มครองเฉพาะความเสียหายด้านร่างกาย ไม่รวมถึงทรัพย์สิน โดยมีรายละเอียดหลัก ๆ ได้แก่
นั่นหมายความว่า ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายผิดหรือถูก ก็สามารถเคลมค่ารักษาจาก พ.ร.บ. ได้ตามสิทธิ
พ.ร.บ. รถยนต์มีระยะเวลาคุ้มครอง 1 ปี นับจากวันที่ระบุในกรมธรรม์ หากครบกำหนดแล้วไม่ต่อภายในเวลา จะถือว่าหมดอายุทันที และจะไม่สามารถต่อภาษีรถยนต์ประจำปีได้จนกว่าจะมี พ.ร.บ. ที่ยังใช้งานอยู่
การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ แต่ละครั้ง ต้องเตรียมเอกสาร ดังนี้
ค่าเบี้ย พ.ร.บ. รถยนต์เป็นแบบคงที่ไม่มีการปรับขึ้น โดยแยกราคาตามประเภทรถดังนี้
รถจักรยานยนต์
รถยนต์
รถไฟฟ้า
*อัตราค่าเบี้ยทั้งหมดยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
ปัจจุบันมีช่องทางซื้อหรือต่อ พ.ร.บ. ที่หลากหลายให้เลือกตามความสะดวก มาดูกันว่า มีช่องทางไหนบ้าง
การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ที่กรมการขนส่งทางบกเป็นอีกวิธีที่มั่นใจได้ในความถูกต้อง สามารถไปยังสำนักงานของกรมฯ ได้ทุกแห่ง พร้อมกับยื่นเอกสารจำเป็นให้ครบถ้วน และชำระค่าธรรมเนียมตามที่กำหนด ก็สามารถต่อ พ.ร.บ. ได้ทันที
เหล่ากู๊ดดี้ที่ไม่มีเวลาเดินทางไปยังกรมการขนส่ง สามารถเลือกซื้อ พ.ร.บ. ได้ที่เคาน์เตอร์เซอร์วิสในร้านค้าชั้นนำ เช่น 7-Eleven หรือ Big C โดยนำเอกสารที่เกี่ยวข้องไปยื่นที่จุดบริการ จากนั้นพนักงานจะช่วยดำเนินการให้ทุกขั้นตอน อย่างไรก็ตาม ช่องทางนี้อาจจำกัดประเภทของรถที่สามารถใช้บริการได้ เช่น ต้องเป็นรถยนต์ส่วนบุคคลไม่เกิน 7 ปี
การต่อ พ.ร.บ. ออนไลน์ผ่านเว็บไซต์กรมการขนส่งทางบก เป็นทางเลือกที่สะดวกและรวดเร็ว ซึ่งต้องทำล่วงหน้าไม่น้อยกว่า 90 วันก่อน พ.ร.บ. หมดอายุ โดยมีขั้นตอนดังนี้
หลายบริษัทประกันภัยเปิดให้ลูกค้าต่อ พ.ร.บ. ได้ผ่านเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชันของตนเอง เหมาะสำหรับผู้ที่มีประกันภัยอยู่แล้ว เพราะสามารถกรอกข้อมูลรถยนต์ เลือกแผน พ.ร.บ. และชำระเงินได้ทันทีผ่านระบบออนไลน์ ข้อดีคือบางครั้งอาจมีโปรโมชันพิเศษหรือส่วนลดให้กับลูกค้าเก่าอีกด้วย
ช่องทางสุดท้าย คือการซื้อ พ.ร.บ. บนเว็บไซต์ของโบรกเกอร์ประกันรถยนต์ ซึ่งเหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการเปรียบเทียบราคาจากหลายบริษัทในที่เดียว อย่างไรก็ตาม บางแพลตฟอร์มอาจจำกัดเฉพาะรถยนต์ส่วนบุคคลที่มีอายุไม่เกิน 7 ปี และต้องเป็นชื่อบุคคลธรรมดาเท่านั้น
สามารถต่อ พ.ร.บ. ล่วงหน้าได้ไม่เกิน 90 วัน หรือ 3 เดือนก่อนวันหมดอายุ
จริง ๆ แล้วไม่ควรขาดต่อเลย เพราะเมื่อ พ.ร.บ. หมดอายุ จะไม่มีความคุ้มครองทันที และหากเกิดอุบัติเหตุขึ้นในช่วงเวลานั้น เจ้าของรถจะต้องรับผิดชอบค่าเสียหายเองทั้งหมด และมีความผิดทางกฎหมายกรณีถูกเจ้าหน้าที่ตรวจสอบด้วย นอกจากนี้การปล่อยให้ขาดนานเกินไปอาจทำให้ขั้นตอนยุ่งยากขึ้น และมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ดังนี้
กรณีขับรถยนต์ที่ พ.ร.บ. ขาดต่อหรือหมดอายุแล้วเจอเจ้าหน้าที่เรียกตรวจมีโทษปรับสูงสุด 10,000 บาท ถ้าต่อแล้วแต่ไม่ติดป้ายสี่เหลี่ยมที่กระจกหน้ามีโทษปรับ 1,000 บาท มากไปกว่านั้น ยังเสียโอกาสรับความคุ้มครองตามที่ควรจะได้ ดังนี้
ถ้าไม่อยากเสียโอกาสและโดนโทษ เหล่ากู๊ดดี้สามารถต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ ล่วงหน้าได้มากถึง 90 วัน พร้อมต่อภาษีรถยนต์ได้เลย ป้องกัน พ.ร.บ. ขาดโดยไม่ได้ตั้งใจ
จริงอยู่ ที่ พ.ร.บ. รถยนต์เป็นประกันภัยภาคบังคับต้องทำทุกคัน แต่ความคุ้มครองถูกจำกัดอยู่แค่ตัวบุคคลเท่านั้น ควรมีประกันรถยนต์เสริมเข้ามาเพื่อครอบคลุมความเสียหายต่อตัวรถและทรัพย์สิน เวลาเคลมค่ารักษาพยาบาลและค่าสินไหมทดแทนอื่น ๆ จะได้รับชดเชย 2 ต่อระหว่างกรมธรรม์ประกันรถยนต์และ พ.ร.บ.
กรณีผู้ขับขี่ไม่ใช่เจ้าของรถแล้วเกิดอุบัติเหตุ “เบิก พ.ร.บ. ได้” เพราะให้ความคุ้มครองผู้ประสบภัยบนท้องถนนทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็นคนขับ ผู้โดยสาร และคู่กรณี มีสิทธิ์เบิกค่ารักษาพยาบาลและชดเชยต่าง ๆ ได้เต็มจำนวนตามจริง
พ.ร.บ. กับภาษีรถยนต์ต่างกันอย่างชัดเจน โดย
ถึงแม้จะเกี่ยวกับข้องกับคนใช้รถเหมือนกัน แต่หน้าที่และจุดประสงค์แตกต่างกัน และต้องทำทั้งสองอย่างให้ครบทุกปี
การต่อ พ.ร.บ. รถยนต์คือเรื่องสำคัญที่คนใช้รถมองข้ามไม่ได้ เพราะไม่มีใครคาดเดาได้ว่าอุบัติเหตุจะเกิดขึ้นกับเราเองและคนใกล้ตัวเมื่อไหร่ ถ้ารู้ตัวว่าใกล้ถึงกำหนดต้องต่อ พ.ร.บ. รถยนต์ heygoody แนะนำว่าให้รีบจัดการตั้งแน่เนิ่น ๆ จะได้ไม่เสียสิทธิ์การคุ้มครองชีวิตไปแบบฟรี ๆ
ใครกำลังมองหาประกันรถยนต์ตอบโจทย์ทุกความต้องการ พ่วงกับ พ.ร.บ. แบบครบจบ heygoody โบรกเกอร์ประภันภัยออนไลน์ พร้อมให้บริการด้วยกรมธรรม์จากบริษัทชั้นนำของไทยตั้งแต่ชั้น 1-3 รับความคุ้มครอง 2 ต่อทั้งกรมธรรม์และ พ.ร.บ. ผ่อน 0% นานสุด 10 เดือน
ที่มา : กรมการขนส่งทางบก และ บริษัท กลางคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ จำกัด