รวมเทคนิคขับรถตอนฝนตกหนักให้ปลอดภัย

488 คน
แชร์
เทคนิคขับรถตอนฝนตกหนักให้ปลอดภัย

ตอนฝนตกคือความน่าเบื่อของคนใช้รถทุกประเภท เพราะทัศนวิสัยไม่ดี มองทางลำบาก ถนนเปียกลื่นบังคับรถได้ยากขึ้นกว่าเดิม ถือเป็นสภาพแวดล้อมเสี่ยงเกิดอุบัติเหตุได้ง่ายกว่าปกติหลายเท่าตัว แค่ประมาทนิดเดียวก็เป็นเรื่องได้เลย แบบนี้เราควรรับมือยังไงถ้าต้องขับรถตอนฝนตกหนักแบบเลี่ยงไม่ได้ วันนี้ heygoody ขอแนะนำกับเทคนิคขับรถลุยฝนให้ปลอดภัยทั้งตัวคุณเองและเพื่อนร่วมทาง มีอะไรต้องระวังเป็นพิเศษบ้างไปติดตามกันเลย

วิธีขับรถตอนฝนตกหนักให้ปลอดภัย

อันตรายที่เกิดขึ้นได้ในระหว่างฝนตก

ก่อนจะเข้าเรื่องเทคนิคการขับรถลุยฝน อยากให้ทุกคนรู้ถึงความเสี่ยงที่เกิดขึ้นบนท้องถนนเป็นประจำเพื่อให้มีสติรับมือได้ทันเมื่อเจอกับตัวเอง โดยมีอันตราย ดังนี้

ถนนเปียกลื่นกว่าปกติเท่าตัว

10 นาทีแรกที่พายุฝนกระหน่ำ คือช่วงถนนเปียกลื่นแบบสุด ๆ เพราะน้ำฝนไปจับตัวกับฝุ่นผง ดินโคลน และสิ่งสกปรกฝังตัวตามผิวถนน ทำให้ควบคุมรถยากและยางทั้ง 4 ล้อเกาะถนนได้ไม่เต็มที่ เสี่ยงต่อการลื่นไถลเสียหลักได้ทุกเมื่อ

ทัศนวิสัยไม่ดี มองเห็นยาก

ยิ่งฝนตกหนักมากเท่าไหร่ ทัศนวิสัยยิ่งแย่ตามไปด้วย ทำให้สังเกตเห็นทางข้างหน้าและสิ่งรอบข้างยากขึ้น ทัศนวิสัยไม่ดีแบบเป็นสาเหตุอันดับต้น ๆ ของอุบัติเหตุรถชนท้าย เพราะมองไม่ค่อยเห็นรถคันข้างหน้ารู้ตัวอีกทีก็ชนไปแล้ว

เกิดแอ่งน้ำตามถนน

ลักษณะถนนบ้านเราไม่มีความเรียบสม่ำเสมอ มีทั้งการยุบตัวของถนน ยางมะตอยถูกเซาะ บางจุดถนนเป็นคลื่นเลยก็มี ทำให้เกิดแอ่งน้ำตามทางได้บ่อย ๆ เวลาขับผ่านด้วยความเร็วสูงรถอาจมีอาการเหินน้ำจนเสียหลักได้ถ้าควบคุมรถไม่ดี

รวมเทคนิคขับรถตอนฝนตกหนักให้ปลอดภัย

มาถึงตรงนี้คงเข้าใจกันแล้วว่า ตอนฝนตกมีอันตรายอยู่รอบด้าน เพราะปัญหาเหล่านี้เป็นต้นเหตุสำคัญที่ทำให้เกิดอุบัติเหตุทุกรูปแบบ ความรุนแรงหนักเบาตามความประมาทอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ทุกคนรับมือกับสถานการณ์เหล่านี้ได้ด้วยเทคนิคขับรถตอนฝนตกหนักดังนี้ 

1. เปิดที่ปัดน้ำฝนทันทีเมื่อฝนลงแรง

ไม่ว่าฝนจะตกเบาหรือแรง ควรเปิดที่ปัดน้ำฝนทันทีต้องเปิดความเร็วให้สอดคล้องกับปริมาณของฝน เพื่อไม่ให้น้ำฝนบังทัศนวิสัยกระจกหน้าจนหมดทั้งบาน ส่วนใหญ่เกิดอุบัติเหตุเพราะมองเห็นทางข้างหน้าไม่ชัด เจ้าของรถควรเช็คยางปัดน้ำฝนอย่างสม่ำเสมอเพื่อพร้อมใช้งานทุกเมื่อ

2. ไม่ขับเร็ว และมีสมาธิกับทางข้างหน้า

ในช่วงฝนตกควรขับรถด้วยความเร็วไม่เกิน 60-80 กิโลเมตรต่อชั่วโมง หรือใช้ความเร็วให้ต่ำกว่าปกติเท่าตัว เพราะรถเมื่อขับด้วยความเร็วสูงมีโอกาสลื่นทรงตัวไม่อยู่ ที่สำคัญต้องโฟกัสกับทางข้างหน้าและรอบข้าง ไม่ว่อกแว่กเพื่อหลีกเลี่ยงอุบัติเหตุไม่คาดคิด ถ้าต้องขับรถลุยน้ำท่วมขัง ขอแนะนำให้ใช้เกียร์ต่ำสุดให้เครื่องมีกำลังฝ่ามวลน้ำได้ดี บังคับรถได้ง่ายกว่า

3. เปิดไฟส่องสว่างให้ครบ งดเปิดไฟสูง

เปิดไฟส่องสว่างให้ครบทั้งคัน เพื่อให้รถยนต์คันอื่น ๆ มองเห็นรถเราได้ชัดเจนท่ามกลางทัศนวิสัยที่ไม่ดี ข้อควรระวังคือ ห้ามใช้ไฟสูงเด็ดขาด เพราะทำให้รถคันข้างหน้าและคันที่สวนเลนมองเห็นทางยากขึ้นกว่าเดิม ควรใช้ไฟต่ำปกติเท่านั้น ไม่รบกวนสายตาใคร ยกเว้นเส้นทางรถไม่พลุกพล่านและไฟทางน้อย สามารถเปิดไฟสูงได้เป็นบางจังหวะ  

4. ห้ามเปิดไฟฉุกเฉินในขณะขับรถถ้าไม่จำเป็น 

มีคนจำนวนมากคิดว่า ตอนฝนตกหนักต้องเปิดไฟฉุกเฉินเพื่อให้คันข้างหลังมองเห็นเรา จริง ๆ แล้วเป็นความเชื่อที่ผิดและไม่ควรทำ เพราะหน้าที่ของไฟฉุกเฉินคือ ใช้เพื่อเตือนรถคันข้างหลังให้เลี่ยงรถของเราเมื่อเกิดเหตุจำเป็นเท่านั้น เช่น รถเสีย รถชน ถ้าเปิดไฟฉุกเฉินแล้ววิ่งไปด้วยทำให้รถคันอื่นสับสน อาจกลายเป็นต้นตอของอุบัติเหตุได้

5. ควรเว้นระยะห่างจากคันหน้า 2 เท่า

แค่ขับช้าลงยังไม่พอ ควรเว้นระยะห่างจากรถคันหน้า 2 เท่า จากเดิมเคยเว้นประมาณ 20-30 เมตร ให้เพิ่มเป็น 40-60 เมตรไปเลย เพื่อให้รถยนต์ของเรามีระยะเบรกที่ปลอดภัย ถ้าขับกระชั้นชิดเกินไป เวลามีเหตุฉุกเฉินอาจเบรกไม่ทันจนเกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อนได้

6. ปิดแอร์เวลาลุยน้ำท่วม

ถ้าต้องขับรถลุยน้ำท่วมเกิน 10 เซนติเมตรขึ้นไปควรปิดแอร์ทันที เพื่อป้องกันไม่ให้พัดลมแอร์พัดน้ำเข้าห้องเครื่องยนต์ ป้องกันระบบไฟฟ้าช็อต ถ้าเกิดเหตุน้ำเข้าเครื่อง ท่อไอเสียจนรถดับกลางถนนพยายามอย่าสตาร์ตใหม่ทันที ควรหารถลากจูงมาอยู่ในจุดที่เหนือระดับน้ำแล้วลองสตาร์ตอีกครั้งเพื่อความชัวร์

7. พยายามเลี้ยงเบรก ไม่เหยียบเต็มแรง

พยายามใช้เบรกประคองตัวอยู่เสมอในสภาวะถนนเปียกลื่น ไม่ควรเหยียบเบรกจนเต็มแรงเพราะจะทำให้รถมีโอกาสพลิกคว่ำได้ง่ายขึ้น เมื่อเกิดอาการเหินน้ำหรือรถลื่นไถลควรตั้งสติถอนเท้าออกจากคันเร่งทันที ควบคุมพวงมาลัยให้มั่นคง ใช้เกียร์ต่ำเพื่อช่วยลดความเร็ว จากนั้นค่อย ๆ เหยียบเบรกจะทำให้รถหยุดได้แบบปลอดภัย 

8. เติมลมยางให้พร้อมเมื่อรู้ว่าต้องลุยฝน

ควรเติมลมยางรถยนต์ทั้ง 4 ล้อให้พร้อม เพิ่มแรงดันมากกว่าปกติเล็กน้อย เช่น จากปกติเติม 32 psi ให้เติมเพิ่มเป็น 33-34 psi เพื่อให้ยางรีดน้ำได้ดีขึ้น เพื่อความชัวร์ก่อนออกจากบ้านลองสังเกตสภาพยางทั้งผิวยาง อาการปูบวม เศษหินตามร่องยางก่อนเพื่อให้รถพร้อมใช้งานอยู่เสมอ

ขับรถตอนฝนตกหนักต้องรอบคอบและคำนึงถึงปลอดภัย

ขับรถตอนฝนตกหนัก ต้องรอบคอบและคำนึงถึงปลอดภัย

ขับรถยนต์ต้องมีความรอบคอบและมีสมาธิจดจ่อกับทางข้างหน้าตลอดเวลา โดยเฉพาะช่วงฤดูฝนต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ เพราะสภาพถนนและทัศนวิสัยไม่เป็นใจเสี่ยงเกิดเหตุร้ายได้เสมอ ใครกำลังมองกรมธรรม์ที่ให้รถน้ำท่วมเคลมประกันชั้น 1 heygoody พร้อมให้บริการด้วยประกันรถยนต์จากบริษัทชั้นเลือกความคุ้มครองและแผนการเคลมประกันรถยนต์ได้ตามต้องการ เลือกซื้อประกันรถยนต์ครบจบในที่เดียว

แชร์
ไปเลือกประกันรถยนต์กัน!
แค่กรอกข้อมูลง่าย ๆ แล้วให้ heygoody เสนอแผนที่เหมาะกับคุณ
เช็คราคาเบี้ย
ไปเลือกประกันรถยนต์กัน!
แค่กรอกข้อมูลง่าย ๆ แล้วให้ heygoody เสนอแผนที่เหมาะกับคุณ
เช็คราคาเบี้ย
แชร์
แชร์
chevron-down