รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท เลือกใช้งานอย่างไรให้เหมาะกับไลฟ์สไตล์

439 คน
แชร์
รู้จัก 4 ประเภทรถยนต์ไฟฟ้า

กระแสรถยนต์ไฟฟ้าแรงดีไม่มีตกแบบนี้ หลายคนคงเริ่มมีเป็นของตัวเองสักคัน แต่ก่อนตัดสินใจซื้อ รู้มั้ยว่า รถยนต์ไฟฟ้าแบ่งออกเป็นกี่ประเภทอะไรบ้าง? วันนี้ heygoody จะพารู้จักกับ 4 ประเภทของรถยนต์ไฟฟ้า ไปดูกันว่า แต่ละประเภทมีจุดเด่น และข้อจำกัดยังไง? อ่านจบแล้วร้องอ๋อแน่นอน!

ยาวไปเลือกอ่านได้นะ ซ่อน
1) รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท?

รถยนต์ไฟฟ้ามีกี่ประเภท?

4 ประเภทรถยนต์ไฟฟ้า

รถยนต์ไฟฟ้า EV (Electric Vehicle) มีด้วยกัน 4 ประเภท ได้แก่ รถยนต์ไฮบริด (HEV) รถยนต์ปลั๊กอินไฮบริด (PHEV) รถยนต์แบตเตอรี่ (BEV) และรถยนต์เซลล์เชื้อเพลิง (FCEV) แต่ละประเภทต่างกันยังไง? ไปดูรายละเอียดด้านล่างนี้เลย

1. รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV)

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle: HEV)

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไฮบริด (Hybrid Electric Vehicle) หรือรถ HEV คือรถยนต์ไฟฟ้าพลังงานผสม ที่ทำงานร่วมกันระหว่าง เครื่องยนต์สันดาปภายใน และมอเตอร์ไฟฟ้า ซึ่งการใช้พลังงานไฟฟ้ามาช่วยขับเคลื่อนนี่แหละ ทำให้รถยนต์ HEV ประหยัดน้ำมันมากกว่ารถยนต์ทั่วไป

รถยนต์ HEV มีระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟ (Regenerative Braking) หรือการสนับสนุนการเบรกแบบผันกลับเพื่อสำรองพลังงานในรูปแบบพลังงานไฟฟ้า อธิบายง่าย ๆ คือมีการเปลี่ยนพลังงานจากการเบรกและการชะลอความเร็วมาเป็นพลังงานไฟฟ้าเก็บในแบตเตอรี่ ทำให้ไม่ต้องเสียบปลั๊กเพื่อชาร์จไฟนั่นเอง

ตัวอย่างรถยนต์ HEV ที่วางจำหน่ายในไทย

  • Honda Accord Hybrid
  • Toyota Camry Hybrid
  • Toyota Alphard Hybrid
  • Toyota Altis Hybrid

จุดเด่นของรถยนต์ HEV

  • ประหยัดน้ำมัน
  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปล่อยไอเสียน้อยลงกว่ารถยนต์ทั่วไป
  • มอเตอร์ไฟฟ้าช่วยลดเสียงรบกวนจากเครื่องยนต์
  • ไม่ต้องเสียบปลั๊กชาร์จไฟ

ข้อจำกัดของรถยนต์ HEV

  • ค่าบำรุงรักษาสูง
  • แบตเตอรี่ราคาสูง
  • ขับทางไกลอาจไม่ช่วยประหยัดน้ำมัน เพราะระบบจะดึงพลังงานไฟฟ้ามาช่วยในระยะทางสั้น ๆ และอัตราความเร็วต่ำเท่านั้น

2. รถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Vehicle: PHEV)

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Vehicle: PHEV)

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทปลั๊กอินไฮบริด (Plug-in Hybrid Vehicle) หรือที่เรียกกันว่า รถยนต์ Plug In Hybrid คือรถยนต์ HEV เวอร์ชันอัปเกรด โดยเพิ่มระบบเสียบปลั๊กชาร์จเพื่อให้ชาร์จไฟจากภายนอกได้ ส่วนระบบการทำงานยังคงผสมผสานการทำงานระหว่างเครื่องยนต์และมอเตอร์ไฟฟ้าเหมือนเดิม

ตัวอย่างรถยนต์ PHEV ที่วางจำหน่ายในไทย

  • Mitsubishi Outlander PHEV
  • Volvo XC40 Recharge
  • Mercedes-Benz plug-in hybrid
  • MG HS PHEV

จุดเด่นของรถยนต์ PHEV

  • ประหยัดน้ำมัน
  • ชาร์จไฟกับปลั๊กไฟที่บ้าน ด้วยชุดอุปกรณ์โดยเฉพาะ หรือชาร์จที่สถานีชาร์จไฟฟ้าข้างนอกได้
  • กำลังขับเคลื่อนแรงกว่ารถยนต์เครื่องสันดาปทั่วไปและรถยนต์ HEV
  • มีระบบเบรกเพื่อชาร์จไฟ (Regenerative Braking)
  • ขับเคลื่อนโดยใช้ไฟฟ้า 100% ระยะสั้น ๆ ได้

ข้อจำกัดของรถยนต์ PHEV

  • ราคาเริ่มต้นสูงกว่ารถยนต์ทั่วไป
  • แบตเตอรี่ราคาสูง
  • ระยะการขับขี่น้อยกว่ารถยนต์ทั่วไป

รถยนต์ HEV และ PHEV ต่างกันอย่างไร?

ความแตกต่างของ HEV และ PHEV คือระบบการชาร์จไฟฟ้า โดยรถยนต์ HEV จะชาร์จไฟฟ้าจากการเบรกและการชะลอความเร็ว ส่วนรถยนต์ PHEV สามารถชาร์จจากจุดชาร์จไฟได้ แต่หลักการทำงานยังคงทำงานร่วมกันของเครื่องยนต์สันดาปและมอเตอร์ไฟฟ้าเหมือนกัน

3. รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV)

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle: BEV)

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทแบตเตอรี่ (Battery Electric Vehicle) หรือรถ BEV คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้มอเตอร์ไฟฟ้าขับเคลื่อน !00% ไม่ต้องใช้น้ำมันหรือเชื้อเพลิงอื่น ๆ ทำให้รถยนต์ BEV ไม่มีการปล่อยควันพิษหรือมลพิษออกมาแม้แต่นิดเดียว เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมสุด ๆ ที่สำคัญมีสถานีชาร์จให้บริการทั่วประเทศ

ตัวอย่างรถยนต์ BEV ที่วางจำหน่ายในไทย

  • ORA Good Cat
  • NETA V
  • BYD Atto 3
  • Nissan Leaf

จุดเด่นของรถยนต์ BEV

  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
  • ประหยัดค่าน้ำมัน
  • ไม่มีเสียงเครื่องยนต์ขณะใช้งาน
  • อัตราเร่งดี คล่องตัวสูง

ข้อจำกัดของรถยนต์ BEV

  • ค่าซ่อมบำรุงสูง 
  • รถยนต์บางรุ่นไม่มีอะไหล่พร้อม
  • ชาร์จปกติให้เต็ม 100% ใช้เวลานานถึง 6-8 ชม. 
  • ต้องชาร์จแบตเตอรี่ให้พร้อมก่อนใช้งาน
  • ระยะทางขับขี่มีจำกัด ขึ้นอยู่กับขนาดของแบตเตอรี่ที่ใช้งาน

4. รถยนต์ไฟฟ้าประเภทเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle: FCEV)

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle: FCEV)

รถยนต์ไฟฟ้าประเภทเซลล์เชื้อเพลิง (Fuel Cell Electric Vehicle) หรือรถยนต์ FCEV คือรถยนต์ไฟฟ้าที่ใช้พลังงานไฮโดรเจนในการผลิตพลังงานไฟฟ้า เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงขับเคลื่อนรถ ซึ่งหลายคนอาจคุ้นในชื่อ “รถพลังงานไฮโดรเจน” โดยไฮโดรเจนจะถูกเก็บในรูปของเหลว แล้วส่งไปยังเซลล์เชื้อเพลิง เมื่อไฮโดรเจนผสมกับออกซิเจน จะทำปฏิกิริยาและเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า ซึ่งจะถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่เพื่อนำไปใช้ขับเคลื่อนตัวรถต่อไป

ตัวอย่างรถยนต์ FCEV

  • Toyota Mirai
  • Hyundai Nexo
  • Honda Clarity Fuel Cell

จุดเด่นของรถยนต์ FCEV

  • เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม ปล่อยไอน้ำแทนท่อไอเสีย
  • ระยะเวลาเติมเชื้อเพลิงไม่นาน 3-5 นาที โดยประมาณ
  • เสียงเครื่องยนต์ไม่ดัง

ข้อจำกัดของรถยนต์ FCEV

  • ค่าบำรุงรักษาแพง เพราะยังถือเป็นเทคโนโลยีใหม่
  • เติมเชื้อเพลิงเองที่บ้านไม่ได้ ต้องเติมตามสถานีเท่านั้น
  • สถานที่เติมก๊าซไฮโดรเจนมีน้อย ในไทยมีที่เดียวคือ ปั๊ม ปตท. ใกล้สนามบินอู่ตะเภา จังหวัดชลบุรี

เลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องเตรียมตัวอย่างไร?

เตรียมตัวก่อนใช้รถยนต์ไฟฟ้า

ถ้าตัดสินใจได้แล้วว่าจะเลือกใช้รถยนต์ไฟฟ้าประเภทไหน มาดู 5 เช็คลิสต์ที่ต้องเตรียมพร้อมก่อนใช้รถยนต์ไฟฟ้ากันดีกว่า

  1. ศึกษาข้อมูลรุ่นรถที่สนใจ ตั้งแต่ราคา การชาร์จแบตเตอรี่ ระยะการวิ่งสูงสุด สมรรถนะของตัวรถ ดีไซน์ ตลอดจนออปชันเสริมต่าง ๆ เพื่อเลือกรถให้ตอบโจทย์การใช้งานที่สุด
  2. เตรียมงบประมาณที่ต้องจ่าย ไม่ว่าจะเป็น ค่าประกันรถยนต์ไฟฟ้า ค่าภาษีรถยนต์ไฟฟ้า ค่าบำรุงรักษา ค่าตรวจสภาพรถ และค่าไฟฟ้า เป็นต้น
  3. มองหาประกันรถยนต์ เพื่อคุ้มครองรถยนต์ในทุกการเดินทาง
  4. ติดตั้งจุดชาร์จในบ้าน เพื่อความสะดวกในการใช้งาน ชาร์จไฟฟ้าตอนกลางคืนได้
  5. เตรียมพร้อมระบบไฟฟ้าภายในบ้าน ได้แก่
    • ติดตั้งมิเตอร์ไฟฟ้าที่มีแอมป์เหมาะสม รองรับรถยนต์ไฟฟ้าได้
    • เปลี่ยนสายเมนเข้าบ้าน และลูกเซอร์กิต ให้สอดคล้องกับมิเตอร์ไฟฟ้าใหม่
    • ติดตั้งตู้ควบคุมไฟฟ้า 
    • ติดตั้งเครื่องตัดไฟรั่ว 

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าต่างจากประกันทั่วไปอย่างไร?

ประกันรถยนต์ไฟฟ้าต่างจากประกันทั่วไปอย่างไร?

ประกันรถยนต์ไฟฟ้ามีความคุ้มครองพิเศษสำหรับรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เช่น คุ้มครองเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้าน คุ้มครองแบตเตอรี่ คุ้มครองสายชาร์จ คุ้มครองบุคคลภายนอกกรณีเกิดอุบัติเหตุจากเครื่องชาร์จที่บ้าน หรือสถานีชาร์จสาธารณะ ขึ้นอยู่กับแต่ละบริษัทประกัน ซึ่งทั้งหมดนี้ประกันรถยนต์ทั่วไปจะไม่มีนั่นเอง

เลือกรถไฟฟ้าที่ถูกใจ เสริมความอุ่นใจด้วยประกันรถไฟฟ้าจาก heygoody

อ่านมาถึงตรงนี้ เหล่ากู๊ดดี้คงได้คำตอบแล้วว่า รถไฟฟ้ามีกี่ประเภท? และมองเห็นภาพชัดขึ้นว่า แต่ละประเภทรถยนต์ไฟฟ้า ทั้ง HEV, PHEV, BEV และ FCEV ต่างกันยังไง? ซึ่งทั้ง 4 ประเภทมีจุดเด่นและข้อจำกัดแตกต่างกัน ลองชั่งน้ำหนักดู แล้วเลือกประเภทที่ตอบโจทย์การใช้งานมากที่สุด 

หลังจากซื้อรถยนต์ไฟฟ้ามาใช้งานแล้ว อย่าลืมทำประกันรถยนต์ด้วยนะ เพราะมีประกัน ก็เหมือนมีเพื่อนแท้คอยดูแลทั้งคนและรถเมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน สำหรับใครที่ไม่รู้ว่าจะเลือกประกันรถไฟฟ้าที่ไหนดี? มาที่เว็บไซต์ heygoody ด่วน เรารวมประกันรถไฟฟ้าจากบริษัทประกันชั้นนำไว้ให้เปรียบเทียบแล้ว สามารถเช็คราคาและกดซื้อเองได้ 24 ชม. 

ที่มา : AUTOSPINN, เฮงลิสซิ่ง และ Panda Star Oil

แชร์
ไปเลือกประกันรถยนต์กัน!
แค่กรอกข้อมูลง่าย ๆ แล้วให้ heygoody เสนอแผนที่เหมาะกับคุณ
เช็คราคาเบี้ย
ไปเลือกประกันรถยนต์กัน!
แค่กรอกข้อมูลง่าย ๆ แล้วให้ heygoody เสนอแผนที่เหมาะกับคุณ
เช็คราคาเบี้ย
แชร์
แชร์

12 รางวัลAward

การันตีความสำเร็จ จากเวทีระดับโลก

ดูรางวัลทั้งหมด
Insure Tech Connect Asia

Insure Tech Connect Asia

Brokerage Breakthrough and Data Analytics Master Awards - 2024

Global Retail Banking Innovation

Global Retail Banking Innovation

Best Customer Centric Business Model - 2024

New York Festivals Awards 2024

New York Festivals Awards 2024

Bronze หมวดหมู่ Insurance - 2024

The Work 2024

The Work 2024

Film/TV Craft · Film/Web Film · Culture · Work for Good · Branded Content + Entertainment - 2024

Thailand Influencer Awards 2024 by Tellscore

Thailand Influencer Awards 2024 by Tellscore

Best Financial & Investment Influencer Campaign - 2024

chevron-down